วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

อย่างที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า Apple ไม่สามาถรพัฒนาตัวสแกนลายนิ้วมือลงในหน้าจอได้ทัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าฟีเจอร์ดังกล่าวจะถูกัดออก ล่าสุด The Wall Street Journal รายงานเพิ่มเติมว่าเราจะไม่เห็น Touch ID ใน iPhone 8 ที่กำลังจะเปิดตัวสัปดาห์นี้แน่นอน

ข่าวลือที่ Apple จะตัด Touch ID ที่เริ่มเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ปี 2013 ออกจาก iPhone รุ่นใหม่นี้นั้นก็มีออกมาหลายเดือนแล้ว Bloomberg กล่าวเอาวไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า Apple กำลังจะแทนที่ Touch ID ด้วยตัววิเคราะห์ใบหน้าใน  และหลังจากนั้นก็มีข้อมูลการวิเคราะห์ออกมาจากหลายๆ แหล่งข่าวพูดในแนวทางเดียวกันนี้

WSJ กล่าวว่า Apple กำลังจะเป็นผู้ริเริ่มในการฝัง Touch ID ลงบนหน้าจอ iPhone และเนื่องด้วยปัญหาหลายๆ อย่าง ประกอบกับที่ iPhone 8 จะใช้หน้าจอแบบ OLED Apple จึงเลือกที่จะตัด Touch ID ออกไป และแทนที่ด้วยตัววิเคราะห์ใบหน้าแทน

ทั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าหลังจากที่ iPhone 8 เริ่มวางขายแล้ว ของจะขาดตลาด และเกิดการส่งมอบล่าช้า ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าปัญหานี้จะเกิดกับ iPhone 8 สีใหม่เป็นสีแรก และก็จะค่อยๆ ลามไปทุกสีที่วางขายครับ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> http://hitech.sanook.com/1433825/

 

มะเร็งหลังโพรงจมูก กับ 4 สาเหตุสำคัญของโรค

มะเร็งหลังโพรงจมูก กับ 4 สาเหตุสำคัญของโรค

มะเร็งหลังโพรงจมูก กับ 4 สาเหตุสำคัญของโรค

Sanook! (Rewrite)

สนับสนุนเนื้อหา

หลังจากที่ต้นสังกัดของดาราหนุ่มชาวเกาหลี คิมอูบิน ออกมาคอนเฟิร์มว่า คิมอูบิน กำลังเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกระยะแรก ทำให้แฟนๆ หลายคนสนใจโรคนี้กันมาก ว่าเป็นเพราะอะไร มีโอกาสหายหรือไม่

Sanook! Health จึงขออนุญาตนำบาทความของ รศ.นพ. ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มาให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกันค่ะ

____________________

มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นโรคที่อยู่ในตำแหน่งซ่อนเร้น จึงทำให้ผู้ป่วยมาหาด้วยอาการของระยะแพร่กระจาย ในแต่ละปีพบผู้ป่วยทั่วโลกไม่ถึง 1 ต่อแสนคน แต่ในบางบริเวณจะพบผู้ป่วยมะเร็งชนิด นี้สูงอย่างเด่นชัด ได้แก่ จีนตอนใต้ แคนาดา อลาสกา ชาวเอสกิโมในกรีนแลนด์ บางส่วนของแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย สำหรับในประเทศไทยพบมะเร็งหลังโพรงจมูก ในผู้หญิง 1.6 ต่อแสนคนต่อปี ในชาย 4.5 ต่อแสนคนต่อปี จัดเป็นมะเร็งที่ พบบ่อยเป็นอันดับเก้าสำหรับผู้ชายไทย ทั้งนี้พบอุบัติการณ์ในผู้ชายสูงกว่าในผู้หญิงประมาณสองเท่า ส่วนมากอยู่ในวัยหนุ่มสาวถึงกลางคน ในโรงพยาบาลศิริราชตรวจพบผู้ป่วยใหม่ประมาณ 90 – 100 คนต่อปี

สาเหตุมะเร็งหลังโพรงจมูก

พันธุกรรม จากการที่พบว่ามะเร็งหลังโพรงจมูกมีความชุกสูงเฉพาะในบางเขตภูมิศาสตร์ เช่นในประเทศจีนตอนใต้ และส่วนอื่นๆที่ชาวจีนอพยพไป ทำให้มีการศึกษาว่าพันธุกรรมอาจเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดมะเร็งชนิดนี้

ไวรัส เป็นที่ยอมรับกันว่าไวรัสเอปสไตน์บาร์ (Epstein-Barr virus - EBV) มีส่วนสำคัญต่อการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูก โดยศึกษาพบว่าผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกจะมีสารภูมิคุ้มกันต่อไวรัสชนิดนี้ ในปริมาณที่สูงกว่าประชากรทั่วไปที่มีสุขภาพดี

อาหารการกิน พบว่าในมณฑลกวางตุ้งซึ่งมีอุบัติการณ์ของมะเร็งหลังโพรงจมูกในอัตราสูงนั้น ประชาชนนิยมบริโภคปลาหมักเค็มกันมากกว่าจีนส่วนอื่น

สิ่งแวดล้อม มีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมหลายอย่างที่อาจมีผลต่อการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูก ได้แก่ฝุ่นละออง ควันไฟจากการเผาไม้หรือหญ้า สารเคมีต่างๆ ตลอดจนบุหรี่
อาการมะเร็งหลังโพรงจมูก

ก้อนที่คอ เป็นอาการที่พบมากที่สุดของผู้ป่วย มะเร็งหลังโพรงจมูกที่มาพบแพทย์ โดยก้อนที่คอนั้นอาจมีเพียงข้างใดข้างหนึ่งหรือเป็นทั้งสองข้างก็ได้

อาการทางจมูก เช่น มีน้ำมูกปนเลือดบ่อยครั้ง แน่นจมูกหายใจไม่ค่อยสะดวก หรือมีน้ำมูกไหลลงคอเรื้อรัง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยหลายรายอาจได้รับการรักษาแบบโพรงจมูกหรือโพรงไซนัสอักเสบ เรื้อรังมาก่อน

อาการทางหู ได้แก่ การได้ยินบกพร่อง มีเสียงดังในหู ปวดหู หรือมีของเหลวไหลออกจากหู ซึ่งเกิดจากการทำงานผิดปกติของท่อเชื่อมหูชั้นกลาง เนื่องจากมะเร็งหลังโพรงจมูกกระจายตัวมาถึง

ระบบประสาท ได้แก่ อาการปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน ชาที่ใบหน้า ในรายที่ลุกลามมาก ผู้ป่วยก็อาจมีอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้า เวียนศีรษะ เสียงแหบ กลืนลำบาก หรือสำลักได้

อาการของการกระจายของมะเร็งไปสู่อวัยวะอื่นๆ
การวินิจฉัยมะเร็งหลังโพรงจมูก

โดยการซักประวัติ

จากการตรวจร่างกาย ในบริเวณศีรษะและคออย่างละเอียดรวมถึงการตรวจร่างกายทั่วไปซึ่งมีความสำคัญ ในการวินิจฉัยมะเร็งหลังโพรงจมูก และประเมินขอบเขตของมะเร็งที่อาจกระจายไปแล้ว ตลอดจนประเมินการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลือง ปัจจุบันการใช้กล้องส่องตรวจขนาดเล็กทั้งแบบแข็งหรือแบบอ่อนช่วยให้แพทย์ สามารถเห็นตำแหน่งของมะเร็งได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

การตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา หมายถึงการให้การวินิจฉัยที่แน่นอนที่สุด การตัดชิ้นเนื้อตรวจสามารถทำได้ที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอกโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ และอาจใช้ กล้องส่องช่วยข้างในการตัดชิ้นเนื้อด้วยได้

การตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ
- การตรวจเซลล์ ผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกบางรายลงมาพบแพทย์ครั้งแรกด้วยปัญหาต่อมน้ำเหลือง เบื้องลำคอโต โดยที่แพทย์ไม่พบความผิดปกติที่บริเวณหลังโพรงจมูก การเจาะและดูด (fine needle aspiration biopsy -FNA) บริเวณต่อมน้ำเหลืองเพื่อตรวจเซลล์ สามารถช่วยในการวินิจฉัยได้

- การตรวจเลือด เพราะการตรวจสารภูมิต้านทานอิมมูโนโกลบูลินเอ( IgA antibodies) แด่ไวรัสเอปสไตน์บาร์ (Epstein-Barr virus specific antigens) โดยพบว่าผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกจะมีปริมาณสารภูมิต้านทาน สูงกว่าประชากรปกติ นอกจากนี้จะมีการส่งตรวจเลือด เพื่อดูความเข้มของเลือด ตรวจดูระดับการทำหน้าที่ของตับ เพื่อประเมินสภาพผู้ป่วยในการวางแผนการรักษาต่อไป

- การตรวจทางรังสีวิทยา ดังจัดหามากล่าวแล้วดุผู้ป่วยบางรายที่แพทย์สงสัยว่าเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกแต่ ตรวจร่างกายไม่พบก้อนเนื้อหรือแผลที่บริเวณหลังโพรงจมูก การตรวจ computed tomography (CT) และ magnetic resonance imaging (MRI) จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยวินิจฉัยโรค และการตรวจทั้งสองอย่างนี้ยังทำเป็นบอกให้ทราบขอบเขตการลุกลามของตัวมะเร็งตลอดจน การแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองได้หมายถึงอย่างดี นอกจากนั้นการตรวจทางรังสีวิทยาอย่างอื่น ยังมีผลกำไรในงานตรวจหาว่ามะเร็งมีการแพร่กระจายเสด็จอวัยวะอื่นๆอีกหรือไม่ ได้แก่ การตรวจ bone scan และการตรวจอัลตราซาวด์ตับ (liver ultrasound) เป็นต้น

การรักษามะเร็งหลังโพรงจมูก

การรักษามะเร็งหลังโพรงจมูกโดยหลักแล้วคือการใช้รังสีรักษา โดยอาจร่วมกับการอุปการะเคมีบำบัดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะการดำเนินโรคของมะเร็ง สำหรับการผ่าตัดนั้นไม่มีบทบาทในการรักษาโดยตรงเนื่องจากมะเร็งหลังโพรงจมูก มีขอบเขตของรอยโรคใกล้กับอวัยวะที่สำคัญ อาทิเส้นเลือดแดงใหญ่ที่เลี้ยงคอและสมอง ฐานกะโหลกศีรษะ ตลอดจนส่วนของสมองเอง อย่างไรก็ตามการผ่าตัดก็ยังคงมีบทบาทในการรักษามะเร็งหลังโพรงจมูก ในกรณีที่สามารถควบคุมตัวมะเร็งหลังโพรงจมูกได้แล้ว แต่ยังคงมีก้อนที่คออยู่ หรือในผู้ป่วยที่มีมะเร็งเกิดซ้ำหรือหลงเหลือในบริเวณที่จำกัด ก็อาจพิจารณาผ่าตัดได้ในบางราย

 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/7241/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โรคซึมเศร้า

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ชาวบ้านใช้มือถือตามล่าหาตัวเลข ถูกหวยมาแล้วหลายงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ส.ค.) ที่บริเวณต้นข่อยและต้นตะโกนา อายุกว่า 100 ปี กลางทุ่งนา หมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ อำเภอสามโก จังหวัดอ่างทอง ได้มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงและต่างอำเภอจำนวนมาก โดยพากันเข้าไปจุดธูปกราบไหว้

พร้อมได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเพื่อส่องหาตัวเลข อยู่ที่บริเวณโดยรอบโคนต้นข่อยและต้นตะโก คล้ายกับการตามล่าหาโปเกม่อน แต่เป็นการตามล่าหาเลขเด็ดนำไปเสี่ยงดวง หลังได้ทราบข่าวว่ามีประชาชนจำนวนมากได้มาใช้โทรศัพท์ส่องหาตัวเลข แล้วนำไปเสี่ยงดวงถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลติดต่อกันมาหลายงวด

จากการสอบถาม นายหลาด เทวงค์ อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ กล่าวว่า ต้นข่อยและต้นตะโกนานี้ มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ต้นไม้สองต้นอยู่ติดกัน เป็นต้นไม้คล้ายต้นเดียวกันอยู่ที่บริเวณดังกล่าว

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ต่อ มาทางเจ้าของที่นาได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปที่บริเวณโคนต้นข่อยและต้น ตะโกนา แล้วเห็นเป็นตัวเลขเด็ดชัดเจน นำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้วถูกรางวัลติดต่อกันหลายงวด เมื่อชาวบ้านทราบข่าวจึงได้แห่กันมาหาตัวเลขเพื่อเสี่ยงดวง

โดยมีชาวบ้านได้เดินทางมาจุดธูปขอโชคลาภที่บริเวณดังกล่าวต้องมีโทรศัพท์ ที่ใช้ถ่ายรูปได้ แล้วใช้โทรศัพท์เดินถ่ายรูปกันไปโดยรอบๆ ต้นข่อยและต้นตะโกนา หากดูในระยะไกลจะคล้าย กับเกมตามล่าหาโปเกม่อนที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้

แต่มาที่กลางทุ่งนาบริเวณโคนต้นข่อยและต้นตะโกนาจะเป็นการหาตัวเลขเพื่อ นำไปเสี่ยงดวง พร้อมได้นำเครื่องเซ่นสังเวย เช่น น้ำแดง ตุ๊กตา ของเล่นและชุดไทยจำนวนมาก นำมาตั้งถวายหลังจากที่เสี่ยงดวงสมหวัง และสร้างความหวังในช่วงวันหวยออกต่อไป

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล

ชำแหละ “บัตรคนจน” ซื้อตรงไหน ใช้อย่างไร ได้กี่อย่าง

ปางปราบมาร

เปิดโปงความชั่วทั่วพิภพ ตีแผ่ความดีทั่วแผ่นดิน

1 ต.ค. 60 ดีเดย์ไปแล้วสำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ เรียกง่ายๆ ว่า ซึ่งเป็นรัฐสวัสดิการที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพื่อแบ่งเบาภาระในสังคม

โดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้แบ่งประเภทบัตรตามรายได้ของผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือเป็น 2 ประเภท คือ

1.กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 3๐,๐๐๐ บาทต่อปี จะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 300 บาทต่อเดือน รวมทั้งค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ค่ารถเมล์และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

1g4

2.กลุ่มที่มีรายได้เกิน 3๐,๐๐๐ บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวน 200 บาทต่อเดือน รวมทั้งค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ค่ารถเมล์และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน,ค่ารถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

แต่ทั้งนี้หลายคนยังสงสัยในวิธีการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่าสามารถใช้ที่ใด ซื้อของอะไรได้บ้าง มีเงื่อนไขอย่างไรและสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้หรือไม่..?

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีลักษณะคล้ายบัตรเครดิต บัตร ATM คือสามารถนำไปรูดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ ตามร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ โดยชำระเงินก็ง่ายมากเพียงแค่รูดบัตรจ่ายเงินผ่านเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่อง EDC จากนั้นก็จะได้ใบเสร็จเป็นแสดงยอดที่ใช้จ่ายไปและยอดคงเหลือในบัตร

1g3

แต่ถ้าสินค้าที่ซื้อมีราคาเกินกว่าเงินที่อยู่ในบัตร ก็สามารถเติมเงินเข้าไปในบัตรได้ผ่านบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งนอกจากจะเติมเงินเข้าไปในบัตรแล้วยังสามารถใช้บัตรทำธุรกรรมฝาก ถอน โอน ผ่านตู้ ATM / ADM ของธนาคารกรุงไทยได้

เรียกได้ว่าสะดวกสบายสามารถพกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นแทนบัตร ATM ได้ แต่ไม่สามารถกดเงินหรือโอนเงินที่ได้รับจากการการอุดหนุนของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ได้ และถ้าเงินอุดหนุนใช้ไม่หมดเงินก็จะถูกตัดทันทีไม่สามารถเก็บสะสมเพื่อนำไปทบยอดในเดือนหน้าได้

1g6

ด้านสิ้นค้าที่สามารถซื้อได้มีแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ ดังนี้

สินค้าอุปโภค บริโภค เช่น หมวดอาหารสด,หมวดอาหารและเครื่องดื่ม,หมวดของใช้ประจำวัน,หมวดยารักษาโรค

สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การเรียน

สินค้าเพื่อเกษตรกรรม เช่น ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์และเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ

ซึ่งสามารถตรวจสอบร้านธงฟ้าประชารัฐได้ดังนี้ ร้านธงฟ้าประชารัฐ

ขณะที่สวัสดิการช่วยเหลือค่าโดยสารรถเมล์,รถไฟฟ้า,รถไฟ,และรถร่วม บขส. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แบ่งเป็น 2 แบบ

untitled-1copypptv

1. บัตร EMV ตั๋วร่วม (แมงมุม) สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม และ สมุทรสาคร โดยบัตรนี้ ไว้ใช้กับระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร

2. บัตร EMV สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนในจังหวัดอื่นๆ (นอกเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม และ สมุทรสาคร) สำหรับบัตรนี้ จะไม่สามารถใช้กับระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร.

โดยรถโดยสารที่ร่วมโครงการจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ อี-ทิกเก็ต เพื่อใช้สำหรับคิดเงินค่าโดยสารจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพียงแค่แตะเบาๆก็สามารถจ่ายค่าโดยสารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สอดคล้องกับ นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ และรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า เตรียมการทยอยติดตั้งให้ครบตามเป้า 800 คัน ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ก่อน เพื่อรองรับผู้มีบัตรสวัสดิการรายได้น้อย

สำหรับประชาชนที่ไม่มีบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ขสมก. ได้ติดตั้ง ตู้รับเหรียญอัตโนมัติ หรือ แคชบ็อกซ์ ใช้จ่ายเงินสดได้ตามปกติ แต่เครื่องดังกล่าวจะรับได้แค่เหรียญเท่านั้น และจะเริ่มมีการเปิดจำหน่ายบัตรร่วมหรือบัตรแมงมุมให้ประชาชนได้ใช้บริการเครื่องอี-ทิกเก็ต อย่างเต็มรูปแบบทั้ง 2,600 คันได้ภายในเดือนมิถุนายน ปี 2560

1gr

ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนใหญ่ประชาชนยังขาดความรู้ในการใช้บัตรและร้านธงฟ้าประชารัฐก็ยังมีไม่ทั่วถึงไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ด้านเงินอุดหนุนช่วยเหลือค่าเดินทางก็ยังไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมดเท่าที่ควร เนื่องจากว่าปริมาณรถโดยสารที่ติดตั้งเครื่อง อี-ทิกเก็ต ยังมีไม่มากนัก

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่ทางโครงการสวัสดิการประชารัฐต้องรีบแก้ไข หากในอนาคตการขนส่งบริการทั้งหมดครอบคลุมและร้านธงฟ้าประชารัฐสามารถให้บริการได้ทุกพื้นที่ โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพของคนที่มีรายได้น้อยย่อมเป็นประโยชน์อย่างสูงสุดและจะช่วยแบ่งเบาภาระของคนไทยได้สมกับบ้านเมืองที่น่าอยู่เหมือนดั่งคำขวัญที่ว่า “สยามเมืองยิ้ม”

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/3730734/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

เปรียบเทียบ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่

thaimobilecenter

สนับสนุนเนื้อหา

เปรียบเทียบ  และ Samsung Galaxy S8 เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากสองค่ายใหญ่ รุ่นใดฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็มครบครันกว่ากัน เรามีคำตอบ!

ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Nokia 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Nokia หลังจากที่ปล่อยสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่าง Nokia 6, Nokia 5 และ Nokia 3 รวมถึงฟีเจอร์รุ่นอื่นๆ มาทำตลาดก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า Nokia 8 มาพร้อมกับความไฮเอนด์แบบครบครันในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอคมชัดระดับ 2K QHD, ชิปเซ็ต Snapdragon 835 และกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า และหลัง รวมถึงคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ก็รองรับใน Nokia 8 รุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อ และผู้ใช้ทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจนกระทั่งขณะนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy S8 ที่มาพร้อมกับการพลิกโฉมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบใหม่ รวมถึงอัปเกรดฟีเจอร์ภายในขึ้นจากรุ่นก่อนในหลายด้าน รวมถึงรองรับผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Bixby และการสแกนม่านตา (Iris Scanner) ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น

และด้วยความโดดเด่นแบบกินกันไม่ลงของทั้งสองรุ่นนี้ ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ Nokia 8 และ Samsung Galaxy S8 มาทำการเปรียบเทียบฟีเจอร์ และคุณสมบัติเด่นให้ได้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ว่าทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากพร้อมแล้วเชิญติดตามการเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่ตารางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ


untitled-2

 

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับเพื่อการเปรียบเทียบสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปีของสองค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟน จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นก็มาพร้อมฟีพบร์ระดับท็อปอย่างครบถ้วน และก็มีความสะดุดตาในด้านที่ต่างกันออกไปอย่างชัดเจน โดย Nokia 8 มากับจอขนาดกระชับที่ 5.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K Quad HD พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 835 และก็มีหน่วยความจำแรม(RAM) ขนาด 4GB โดยมีความจุ 64GB ที่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำข้างนอกแบบ microSD อีก 256GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 3090 mAh พร้อม Fast Charge บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และก็รองรับ Google Assistant

Nokia 8 มาพร้อมกล้องถ่ายรูปคู่ (Dual-Camera) ที่ด้านหลังความละเอียด 13 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Carl Zeiss ทั้งด้านหน้า-ข้างหลัง รองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และกล้องถ่ายภาพหน้าความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 ซึ่งตัวเครื่องรองรับคุณลักษณะการคุ้มครองน้ำ รวมทั้งคุ้มครองป้องกันฝุ่นที่ติดอยู่ตามมาตรฐาน IP57 รวมทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) และก็การเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ซึ่งราคาแพงเปิดตัวที่ 599 ยูโร (ราวๆ 23,500 บาท)

สำหรับ Samsung Galaxy S8 มีข้อดีในด้านการดีไซน์โฉมใหม่ที่มีหน้าจำสำหรับแสดงผลไม่มีขอบแบบInfinity Display ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 5.8 นิ้ว บนตัวเครื่องขนาดเท่ารุ่นเดิม พร้อมชัดแจ๋วระดับ 2K QHD และขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 8895 พร้อม RAM 4GB, ROM 64GB ซึ่งสามารถเพิ่มการ์ด microSD ได้อีก 256GB บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge รวมทั้งรองรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Bixby

Samsung Galaxy S8 ใช้งานกล้องถ่ายภาพแบบ 100% AF Dual Pixel ควมละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.7 พร้อมรองรับระบบคุ้มครองปกป้องภาพสั่นไหวแบบ OIS และก็กล้องถ่ายภาพหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รวมถึงรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ (Fingerprint Scanner), เซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner) แล้วก็การเชื่อมต่อแบบ USB Type-C บนตัวเครื่องคุ้มครองน้ำ-คุ้มครองปกป้องฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ในราคา 27,900 บาท

อย่างไรก็แล้วแต่ นอกจากไปจากประสิทธิภาพการทำงาน และก็คุณลักษณะเด่นในด้านต่างๆแล้ว ความชื่นชอบ แล้วก็รสนิยมส่วนบุคคลก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่สมควรละเลยในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่องหนึ่ง ดังนี้ก็เลยขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่ามีความต้องการสมาร์ทโฟนที่สะดุดตาในด้านใด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ของท่านก้าวหน้าที่สุด ซึ่งถ้าว่าได้ทดลองใช้งานในพื้นฐานแล้วเกิดความพึงพอใจทั้งยังในด้านการทำงาน, ดีไซน์ แล้วก็ราคา ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นมีค่าต่อการจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางคณะทำงานจะต้องขออำลาไปก่อน แล้วเจอกันได้ใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

 

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Nokia 8

สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy S8
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ Samsung Galaxy S8
รีวิว (Review) Samsung Galaxy S8

 

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432121/

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

เคล็ดลับหน้าขาวใสไร้รอยสิว จากผู้หญิงหน้าสิว มีรอยดำ เธอได้ลองพอกหน้าด้วยสูตรนี้ เธอคนนี้ใช้นามแฝงว่า คุณ หญิงเชื่อในพระเจ้า สมาชิกจาก http://pantip.com/ สูตรหน้าใสที่เห็นผลจริงเวลาใน 2 เดือนสรรพสิ่งเธอจะมีส่วนผสมอะไรค่อย ตามมาดูกันได้เลยค่ะ

สวัสดีค่ะ เราอยากเเชร์ความสวยผ่านพันทิปค่ะ เรามีเคล็ดลับที่ไม่ลับดีดีมาให้ทุกคนอ่านค่ะ

อยากให้อ่านข้อความก่อนนะคะ ยาวนิดหน่อยเเต่สาระเยอะค่ะ

เรามีชีวิตคนผิวคล้ำมากค่ะ เราชอบทำอะไรเที่ยวไปเรื่อยกับหน้าตัวเอง เอาอะไรมาพอกหน้า จนเต็มไปหมด คือเราอยากให้หน้าขาวค่ะ นั่นมันคือความฝันสิ่งผู้หญิงที่อยากหน้าขาวเนียน

ไอ้จุดพีคมันตรงที่ มันเป๊ะมากค่ะ อิฉันพอกหน้าสูตรนี้มา เกือบ 2 เดือนละค่ะ เดินทางที่หน้าสิวตราบเท่าเพื่อนล้อก็หายไป พอละค่ะไม่เกริ่นหนาหูหนาตา ลงมาดูรูปเราตอนมีสิว และหลังจากที่ผมคิดสูตรนี้ขึ้นมาหา

นี่ค่ะ รูปตอนเป็นสิว เป็นริ้วรอยมาก ไปใดนี่อายค่ะ ในรูปอาจไม่เห็นสิวมาก แต่ความจริงมันมากจังค่ะ เยอะมาก

 

เคล็ดลับหน้าขาวใส

 

และนี่หลังจากใช้ไป

เปล่าได้เเต่งหน้า เเละกล้องฟรุ้งฟริ้งอะไรทั้งนั้น เราเปิดเเฟลต รอยอะไรจะเห็นชัดสล้างเพราะครอบครองกล้องธรรมดา อิอิ ภูมิใจค่ะเดินทางไหนไม่ต้องอายอีกผสานไป

เริ่มสูตรเลยดีกว่าค่ะ

* สิ่งที่ต้องเตรียม*

1. เกลือขัดผิว ค่ะ ตามรูป ราคา 39 บาท
2. น้ำผึ้งเเท้ ค่ะ (ของเราใช้ของสวนจิตรดา)
3. ไข่ 1 ฟอง แค่นี้ค่ะ

สูตรหน้าใส

เดี๋ยวก่อน มาอ่านประโยชน์แต่ละตัวก่อนค่ะ

เกลือขัดผิว - ตัวนี้เป็นสูตรน้ำนมบริสุทธิ์คะ ขจัดสิ่งสกปรก มันจี้ดหน้าเเสบหน้าแผลใช่ไหมสิวที่ใบหน้า จะแห้งลงค่ะ อีกอย่างทำให้ผิวนุ่มมาก
น้ำผึ้ง - ทุกคนทรงไว้รู้ดี ไม่ว่า ครีม สบู่ขัดผิวต่างๆ ฝ่ายมากจักมีส่วนผสมน้ำผึ้ง เพราะทำให้ผิวดีค่ะ มีวิตามินเอ บี2 บี3 บี5 บี6 วิตามินซี และธาตุอีกเยอะค่ะ ทำให้ผิวนุ่มนวล ผิวดี อิ่มน้ำเคลื่อนที่เลยก็ว่าได้ค่ะ
ไข่ขาว - ไข่ขาวตรงนั้นลดความมันของใบหน้าค่ะ หน้าตึง รักษาพร้อมกับสร้างเซลล์ผิวใหม่คะ

พอจะรู้เเล้วใช่มั้ยคะว่าทำไมต้องนำมาผสมกัน 55555

เริ่มทำกันเลยค่ะ

1. ไข่ขาวกึ่งหนึ่งนึงจากที่มีอยู่เครื่องใช้ไข่ค่ะ อ่าวอย่างงสิคะ หมายความว่าว่า ไข่ขาวครึ่งหนึ่งนึงค่ะ 555

2. น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาพอค่ะ

3. เกลือขัดผิว 3 ช้อนเมี่ยงค่ะ จากนั้นก็คนให้เข้าขัดขวางค่ะ

หยุดก่อน..!!

แน่นอนอยู่แล้วการจะให้เข้ากันมันยาก เพราะเกลือ เข้าชิดตัวกันเป็นก้อน ฉะนั้นเราต้องต้มน้ำให้เดือด แล้วนำถ้วยไปวางแล้วคนให้เข้ากันค่ะ เพราะความร้อนจะทำให้เกลือเเยกออกจากกัน ขอโทษค่ะ ลืมถ่ายทัศนียภาพมาก ถือเอาว่าคนให้เข้ากันพอเป็นน้ำเหลวพอค่ะ เพราะเดี๋ยวไข่ขาวสุกพอดี ได้แบบนี้ค่ะ


ตอนนี้กระทู้ก็หมายความว่าที่สนใจนะคะเลยอยากเเก้ไขว่า มีคนถามเยอะเลยเรื่องทำไมจำเป็นต้ม คือพริกไทยหรือแป้งเจอน้ำเย็นก็จะติดกันเป็นก้อนๆ เหมือนเกลือค่ะ ยิ่งเป็นไข่ด้วย หนูเลยคิดว่า เอาไปละลายจะทำให้เกลือไม่ติดกันค่ะ ทว่าพี่ๆ บางคนไม่อยากเสียเวลามาก ก็คนๆ ให้เข้ากันก็พอเพียงค่ะ


จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วหน้าค่ะ

 

หน้าจะเป็น เกล็ดน้ำเล็กๆ เกาะปรากฏ

* สำหรับคนมีสิว มีเเผล จะเเสบหน่อยค่ะ เเต่ทนเพราะเลี่ยนจะทำให้เเห้งค่ะ *



ทิ้งไว้ 10 นาที ค่ะ แล้วล้างออก หน้าจะอิ่มมาก หน้าสดชื่น นุ่มมาก ขาวขึ้นสำหรับค่ะ ร่ำขอเเค่ทำบ่อยๆ นะคะ


ขอบคุณค่ะ ที่อ่านจนจบ ดิฉันไม่ได้หลอกลวงใช่ไหมอย่างไร ดิฉันคิดดูว่าดีค่ะเเละอยากให้สาวๆ ทุกคนได้ลองดูค่ะ

 อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/36049/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

Nokia บอกใบ้มือถือเรือธงรุ่นปริศนา คาดเป็น Nokia 9 จ่อมาพร้อมสเปกครบเครื่องกว่า

 (โนเกีย 9) อัปเดตสเปก ราคา วันเปิดตัวล่าสุด : Nokia บอกใบ้มือถือเรือธงรุ่นปริศนา คาดเป็น Nokia 9 จ่อมาพร้อมสเปกครบเครื่องกว่า ทั้งหน้าจอใหญ่, RAM 8 GB, รองรับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา และกันน้ำ IP68

หลังจากที่ทาง HMD Global ผู้ผลิตและวางจำหน่าย มือถือโนเกีย ได้เปิดตัว Nokia 8 มือถือเรือธงรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน ล่าสุด ก็มีความเคลื่อนไหวของ มือถือเรือธงอีกรุ่น เผยออกมาแล้ว ซึ่งผู้ที่บอกใบ้ความลับดังกล่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น HMD Global นั่นเอง

โดยในระหว่างงานเปิดตัว Nokia 8 ทาง HMD Global เผยว่า ยังมีสมาร์ทโฟนอีกรุ่น ซึ่งมีหน้าจอขนาดใหญ่กว่า Nokia 8 อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา ถึงแม้ทาง HMD จะไม่เผยว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวคือรุ่นใด แต่คาดกันว่าน่าจะหมายถึง Nokia 9

1

 

ถึงแม้ว่าในตอนนี้ จะยังไม่มีรายละเอียดของ Nokia 9 ออกมามากนัก แต่จากภาพหลุดดีไซน์ Nokia 9 ซึ่งเป็นภาพร่างนั้น เผยให้เห็นว่า ตัวเครื่องน่าจะเป็นแบบจอไร้ขอบ และตัดปุ่ม Home ทิ้งไป ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ย้ายไปอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง โดยรวมแล้วคล้ายกับ Samsung Galaxy S8 และพลิกโฉมไปจากดีไซน์ของ Nokia 8 อย่างสิ้นเชิง

2

ภาพคอนเซปท์ Nokia 9

สำหรับสเปกของ Nokia 9 นั้น เบื้องต้นคาดว่า จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 835, หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB หรือ 8 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 128 GB, รองรับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา และกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68

ด้านราคา Nokia 9 จะสูงกว่า Nokia 8 เช่นกัน คาดว่าจะอยู่ที่ 749 ยูโร หรือราว ๆ 29,000 บาท (Nokia 8 ราคา 599 ยูโร หรือราว ๆ 24,500 บาท) ส่วนกำหนดการเปิดตัว ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเผยออกมา แต่คาดว่า น่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ - gsmarena.com

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://hitech.sanook.com/1432193/

คิมจูฮยอก ดาราซีรีส์ Reply1988 ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

คิมจูฮยอก ดาราซีรีส์ Reply1988 ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

คิมจูฮยอก ดาราซีรีส์ Reply1988 ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

(30 ต.ค.) สำนักข่าวเกาหลี รายงานว่านักแสดงชื่อดัง คิมจูฮยอก จากซีรีส์ดังที่คนไทยรู้จักกันดีเรื่อง Reply 1988 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ 

ตามรายงานระบุว่าเวลาประมาณ 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น คิมจูฮยอก ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในย่าน Samseong-dong อยู่ทางตอนใต้ของกรุงโซล รถของเขาเสียหลักพลิกคว่ำเป็นเหตุให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ทั้งนี้้ ทางต้นสังกัด Namoo Actors ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข่าวการเสียชีวิตของ คิมจูฮยอก อย่างเป็นทางการแล้ว  

 

ผลงานของ คิมจูฮยอก ที่เพิ่งลาจอไปคือ เรื่อง Argon และผลงานที่แฟนๆ คนไทยรู้จักกันดีคือเรื่อง Reply 1988  อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/4064478/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

กระจ่าง มาดูกันว่า iPhone 8 ที่มีรอยบากด้านบนจะมีการแสดงผลเวลาและแบตเตอรี่อย่างไร

ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยข้อมูลการดีไซน์หลายส่วนของ iPhone 8 ตั้งแต่หน้าตาตัวเครื่องที่มีรอยบากด้านบนรวมถึงการใช้งานเมื่อไม่มีปุ่มโฮม ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพหน้าตาการแสดงผลบริเวณรอยบากมาเพิ่มเติมอีกด้วย

1433873-thumbnail

นักพัฒนา Guilherme Rambo ได้เผยแพร่ภาพและคลิปการแสดงผลหน้าจอของ  ในส่วนที่เป็นรอยบากด้านบนที่หลายๆ คนสงสัยมานานว่ามันจะแสดงผลอย่างไรหากมีอะไรกั้นตรงกลาง โดยด้านซ้ายจะแสดงเวลา ส่วนด้านขวาจะแสดงตำแหน่ง Wi-Fi, แบตเตอรี่ และสัญญาณโทรศัพท์ครับ

ในส่วนของคลิปนั้น Rambo ได้เผยแพร่ทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของตนดังภาพด้านล่าง ซึ่งสัญลักษณ์บนส่วนแสดงผลนั้นจะมีการย่อ/ขยายเมื่อมีสัญลักษณ์อื่นๆ เข้ามามากขึ้นด้วย

There’s a nice little animation when you connect it to power pic.twitter.com/GFimRxbCAm

— Guilherme Rambo (@_inside) September 9, 2017

//platform.twitter.com/widgets.js

นอกจากนี้ Steven Troughton-Smith นักพัฒนาอีกคนยังได้เผยแพร่ภาพสเตตัสบาร์เช่นเดียวกัน โดยเป็นตัวอย่างเมื่ออุปกรณ์กำลังบันทึกหน้าจอหรือมีสายเรียกเข้า จะมีสีแสดงตรงส่วนของเวลาครับ

Here’s what the ‘double height’ statusbar looks like — screen recording, or in-call. The ears are interactive pic.twitter.com/bdacrEYMCw

— Steve T-S (@stroughtonsmith) September 9, 2017

//platform.twitter.com/widgets.js

งานนี้ก็เรียกว่าหลุดออกมาซะเกือบหมดเปลือก อีกหนึ่งอย่างที่น่าลุ้นก็คือเรื่องราคานั่นเองครับ

อ่านเพิ่มเติมที่ http://hitech.sanook.com/1433873/

 

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

กานต์ วิภากร เผยภาพคู่ หนุ่มมังกร บอกคุยแล้วสบายใจ

 อดีตภรรยาของร็อกเกอร์ เสก โลโซ ทำเอาแฟนคลับต่างตั้งคำถามว่าหนุ่มข้างกายนามว่า มังกร นั้นใช่คนรู้ใจหรือไม่ หรือจะเป็นเพียงเพื่อนสนิทที่คอยให้กำลังใจกันและกัน

ซึ่ง กานต์ ได้บอกไว้เพียงว่า "ถ้าจะมีคนคุยที่รู้สึกว่า คุยแล้วไม่เครียด มันจะไม่ได้เลยเชียวเหรอคะ คือต้องเป็นผญ.ที่ห้ามมีผช.นอกจากผัวเก่า?? มันไม่แฟร์ บอกตรง #คนคุ้นเคย คุยๆกันไปก่อน ผิดตรงไหน?? แต่งเมื่อไรแล้วจะบอก แหม? เยอะ!"

เป็นความรู้สึกที่เธอได้เขียนไว้ผ่านพื้นที่โซเชียลส่วนตัวของเธอเอง

แต่จะใช่หรือไม่ใช่นั้นเรื่องราวความรักเรื่องของหัวใจไม่มีใครล่วงรู้ได้ เป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น หากเป็นเรื่องราวดีๆ แล้วย่อมดีทั้งนั้นนะจ๊ะ 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/3929378/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

4 สิ่งที่น่าจับตามองใน Nokia 8 เรือธงตัวแรกกับการกลับมาของโนเกีย

S! Hitech (Rewrite)

สนับสนุนเนื้อหา

เป็นอีกโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นหนึ่งที่คนไม่ใช่น้อยสนใจไม่น้อยนั่นเป็น โนเกีย 8 ซึ่งกำลังจะขายในประเทศไทยไม่ช้านี้รวมทั้งทั้งโลก วันนี้เลยจะมาดูข้อมูลกันหน่อยว่า 4 สิ่งที่ทำให้มือถือรุ่นนี้น่าดึงดูดจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

ครั้งแรกของ มือถือ Android ที่ใช้กล้องหลังเลนส์คู่จาก Zeiss

 

เป็นมือถือที่มีกล้องหลังคู่ขนาด 13 ล้านพิกเซล แม้จะดูธรรมดา แต่การที่ได้เลนส์ Zeiss ครั้งแรกของการทำมือถือ ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจไม่เบาเลย และก่อนหน้านี้ Nokia ก็เคยใช้เลนส์ Zeiss มาก่อน การกลับมาใช้เลนส์ Zeiss ครั้งถือว่าน่าตื่นเต้นไม่เบา

ระบบบันทึกเสียงรอบทิศ Nokia OZO

 

เป็นครั้งแรกของ โนเกียที่นำระบบ OZO ซึ่งเป็นระบบอัดเสียงที่มีการใช้จาก Hollywood ซึ่งจะบันทึกเสียงผ่านวีดีโอได้รอบทิศทีแรกบนโทรศัพท์มือถือ

ถ้ามองถึงฟีเจอร์การถ่ายรูปแล้ว กล้องของ  นั้นมีให้ทั้งสามารถถ่ายภาพได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลัง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวสามารถใช้งานทั้งถ่ายวีดีโอ และ Live ผ่าน Social Network

ครั้งแรกของโนเกียกับมือถือ Android สเปคระดับบน

 

ปกติ Nokia ภายใต้การนำผลิต HMD Global เปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่ราคาแพงอยู่ระหว่าง 5,000 – 8,000 แค่นั้น ยังไม่มีมือถือที่ราคาแพงกว่านั้น ก็เลยทำให้ Nokia 8 เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่ตีราคาให้เยอะที่สุดเท่าที่ HMD Global เปิดตัวในปีนี้ โดยมีราคาอยู่ที่ 19,500 บาท ในประเทศ นับว่าสูงสุด แต่ก็มีลูกรวมทั้งความหรูหราโอ่อ่าของเครื่องพอได้เหมือนกัน

และก็ทั้งหมดทั้งปวงนี้จะถูกใจไหมแล้วเล่นจริงเป็นอย่างไร พรีวิวอาจจำเป็นต้องติดตามกันถัดไป

รวมเรื่องราว nokia 8 ที่นี่ คลิ๊ก!!!

สนับสนุนเนื้อหา http://hitech.sanook.com/1432825/

7 พฤติกรรมทำร้าย “ไต” ทั้งที่ไม่ได้กินเค็ม!

7 พฤติกรรมทำร้าย “ไต” ทั้งที่ไม่ได้กินเค็ม!

หากพูดถึงโรคไต หลายคนคงคิดออกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินว่า “เพราะทานเค็มมากเกินไป” แต่ Sanook! Health จะมาบอกว่า ไม่ใช่อาหารรสเค็มเท่านั้นที่เป็นสาเหตุของโรคไต คุณอาจยังไม่ทราบ และเผลอทำร้ายไตของตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว!

โรคไต เป็นชื่อที่เรียกรวมอาการ และ/หรือความผิดปกติที่เรียกว่า พยาธิสภาพ ที่เกิดขึ้นบริเวณไตที่ทำให้การทำงานเพื่อขับของเสียออกจากร่างกายและการรักษาความสมดุลของเกลือ รวมถึงน้ำในร่างกายมนุษย์เกิดภาวะขัดข้อง ซึ่งโรคที่เกิดขึ้นกับไตมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ได้แก่

โรคไตวายฉับพลัน
โรคไตวายเรื้อรัง ที่เกิดขึ้นตามหลังจากการเกิดโรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง
โรคไตอักเสบเนโฟรติก
โรคไตอักเสบจากภาวะภูมิคุ้มกันสับสน
โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
โรคถุงน้ำที่ไต
สาเหตุของการเกิดโรคไต

ผู้ป่วยเป็นมาตั้งแต่กำเนิด อาทิ มีไตข้างเดียว หรือไตนั้นมีขนาดไม่เท่ากัน หรืออาจเป็นโรคไตเป็นถุงน้ำ โดยโรคเหล่านี้สามารถสืบต่อกันได้ทางกรรมพันธุ์ด้วย
เกิดจากการอักเสบ อาทิ โรคของกลุ่มเลือดฝอยในไตอักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ กรวยไตอักเสบ ไตเป็นหนอง หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เกิดจากการอุดตัน อาทิ จากนิ่ว ต่อมลูกหมากโต หรือมะเร็งมดลูกไปกดท่อไต
เกิดเนื้องอกขึ้นที่ไต ซึ่งมีอยู่หลายชนิด

นอกจากนั้นแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญที่อาจทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอาหารการกิน การใช้ชีวิต การทำงาน หรือแม้แต่การต้องทนอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ฉะนั้น ลองมาดูกันดีกว่าว่า 7 พฤติกรรมแบบไหนที่อาจทำร้าย “ไต” ของเราได้

1. ทานอาหารรสจัด

ไม่ใช่แค่รสเค็มจัด แต่อาหารรสจัดรวมไปถึง อาหารหวานจัด เผ็ดจัด หรือแม้กระทั่งมันจัด อาหารรสจัดทำให้ไตทำงานหนักขึ้น จึงมีส่วนทำให้เป็นโรคไตได้เช่นเดียวกันกับอาหารรสเค็ม

2. ไม่ออกกำลังกาย

การไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุของหลายๆ โรค ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ไขมันอุดตันเส้นเลือด ไขมันพอกตับ เส้นเลือดอุดตัน โรคหัวใจ และอื่นๆ รวมไปถึงโรคไตด้วยเช่นกัน

3. ดื่มน้ำน้อย หรือมากเกินไป

การดื่มน้ำน้อยเป็นสาเหตุของหลายๆ โรคเช่นกัน (อ่าน 6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”) รวมไปถึงโรคไตด้วย เพราะไตฟอกของเสียในร่างกาย และต้องใช้น้ำเป็นตัวพาไปสู่การกรองของไตจนกลายดำรงฐานะปัสสาวะ หากดื่มน้ำมากเกินไป ไตก็จะทำงานหนักเกินไป แต่หากดื่มน้ำน้อยมากเกินไป (ซึ่งมีโอกาสมากกว่า) ก็จะทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม ซึ่งไม่ดีต่อไต และกระเพาะปัสสาวะด้วย

4. ทำงานหนักเกินไป

เชื่อหรือไม่ว่าการทำงานหนักก็เป็นสาเหตุของโรคไตเนื่องด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อร่างกายขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ อวัยวะภายในร่างกายก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่ออวัยวะที่คอยฟอกของเสียในร่างกายอย่างไตไม่ได้หยุดทำงาน ก็อาจทำให้ไตเสื่อมสภาพลงได้ง่าย

5. ความเครียด

กระแสความเครียดมักมาครบถ้วนกับการทำงานหนัก สมมุติเครียดมากๆ ร่างกายก็จักพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เช่นเดียวกัน นอกจากนี้เมื่อเราเครียด เราจะหายใจเอาออกซิเจนเข้าร่างกาย เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ไม่เต็มที่ และไตก็เป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากความเครียดด้วยเช่นกัน

6. ทานอาหารสำเร็จรูป

แม้ว่าคุณเป็นได้จะบอกว่าไม่ใช่ผู้มีชีวิตทานเค็ม แต่หากคุณชดใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อ อาหารกระป๋องต่างๆ หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลม โซดา และเครื่องดื่มบางประเภท คุณจะได้รับโซเดียมเข้าไปในร่างกายในปริมาณสูงโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังตรงนั้นทานให้น้อยลงหน่อยนะ

7. ความดันโลหิตสูง

ต่างว่าใครมีอาการความดันโลหิตสูงหมายถึงทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมีโอกาสที่จะยังมีชีวิตอยู่โรคไตตามมาด้วย เพราะหากปล่อยให้เป็นความดันสูงต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบรักษา ความดันโลหิตสูงนี้จะทำลายเส้นเลือดที่ไต ทำให้ไตถูกทำลาย หรืออาจเรียกว่าเป็น “ไตวายชั่วคราว”

รู้อย่างนี้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว เดิมที่จะเป็นโรตไตแล้วต้องเดินฟอกไตทั้งปวงวันนะคะ ขอบอกเลยว่าไม่สนุกแน่ๆ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/4761/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะเร็งปากมดลูก

อาเล็ก เปิดใจไม่มีกั๊ก เต้ย อยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์

อาเล็ก เปิดใจไม่มีกั๊ก เต้ย อยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์

อาเล็ก เปิดใจไม่มีกั๊ก เต้ย อยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

ออกมาเปิดใจแบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว หลังจากที่มีกระแสเม้าท์มาหนาหูว่ากำลังความสัมพันธ์ของพระเอกหนุ่มหน้าตี๋ “ กับนางเอกสาวร่างเล็ก “เต้ย จรินทร์พร” ดูแล้วเหมือนจะเกินเพื่อนหรือเปล่า เพราะหลายคนต่างเห็นทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ

ล่าสุดในงาน เดอะมอลล์ เจทั่วทิศ กุศลจิตทั่วไทย “อาเล็ก ธีรเดช” ก็ได้ออกมายอมรับว่า ตอนนี้กำลังศึกษาดูใจกับฝ่ายหญิงอยู่จริง อยากจะให้ค่อยๆ เรียนรู้กันไป ไม่ได้อยากจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว

ไปทำบุญที่หัวหินมาเป็นยังไงบ้าง ?
“ก็ไปปฎิบัติธรรมครับ เต้ยเขาชวนไป เป็นวัดที่เต้ยเขาเป็นลูกสิทธิ์อยู่แล้วครับ แล้วช่วงนั้นก็เป็นช่วงเข้าพรรษาเรามีโอกาสว่างอยู่ก็เลยไปทำครับ ไปทั้งหมด 3 วัน หลายคนคงงงๆ เพราะผมอาจจะไม่ใช่ทางนี้ แต่ด้วยช่วงนี้เป็นช่วงพระราชพิธี ก็เลยอยากปฎิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวงรัชกาลที่ 9ครับ”

ไปกันหลายคนหรือแค่สองต่อสอง ?
“ไปกันหลายคนครับ แต่เพื่อนดาราไม่มีไป จะมีเพื่อนๆ คนอื่นไปด้วย ไม่ได้ไปกันแค่สองคนครับ”

คู่เราถูกหลายคนจับตามองว่าเป็นแฟนกัน
“ก็คุยๆ กันอยู่ครับ ผมก็มีความรู้สึกดีๆ ให้ (ยิ้ม)”

ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตอนไหน ?
“เราเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่เราอย่าไปลงลึกถึงตรงนั้นเลยครับ เรียกว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันครับ เต้ยเป็นคนที่ชอบทำบุญอยู่แล้ว เป็นคนที่ทีความคิดดี อย่างล่าสุดที่ไปปฎิบัติธรรม เต้ยเขาก็ชวนเราไป ก็เรียกว่าชวนกันทำเรื่องดีๆ ดีกว่าครับ”

หรือเพราะมีคนคอยชงให้ เราถึงสานสัมพันธ์ ?
“ไม่มีใครชงครับ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก อย่าไปลงดีเทลมันดีกว่าครับ”

เพื่อนในกลุ่มว่ายังไงบ้าง ?
“จริงๆ เราไม่ได้ปิดบังอะไรครับ แต่แค่ยังไม่ได้บอกใครมากกว่า”

แต่ปกติ “บอย ปกรณ์” จะถูกแซวหนักกว่าเรา ?
“มันเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟระหว่างเพื่อนด้วยครับ อีกอย่างมันไม่จำเป็นที่จะต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ด้วยครับ”

คุยกันมานานหรือยัง ?
“สักพักแล้วครับ น่าจะประมาณ 5-6 เดือน สถานะตอนนี้เรียกว่าผมกำลังตั้งใจที่จะทำความรู้จักให้มากขึ้นครับ”

แสดงว่าอยู่ในขั้นพัฒนาความสัมพันธ์ใช่ไหม ?
“จะเรียกว่าแบบนั้นก็ได้ครับ”

เต้ยดูเหมือนเปิดใจให้เราไหม ?
“ไม่ทราบเหมือนกันครับ เราคุยกันก็อยากจะทำแต่เรื่องดีๆ ชักชวนกันทำแต่เรื่องดีๆ มากกว่า อย่างที่ภาพออกมา เราไปไหนเราก้ไม่ได้ปิดบังกันอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก มันไม่ใช่เรื่องที่เราคุยกับใครแล้วต้องไปป่าวประกาศให้ใครรู้ เรายังไม่ได้ลงภาพอะไรกันเลย ภาพที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นภาพจากคนอื่น”

ความรู้สึกเราสองคนไปคลิกกันตรงไหน ?
“เต้ยเขาเป็นคนดีครับ อย่างที่ทุกคนทราบ เขาเป็นคนที่น่ารักสดใสอยู่แล้ว เป็นคนให้คำปรึกษาได้ดี แล้วคอยชวนทำแต่เรื่องดีๆ ครับ”

ครอบครัวทั้งสองว่ายังไงบ้าง ?
“ก็ทราบครับ”

มีเวลาเจอกันมากน้อยแค่ไหน ?
“ก็มีบ้างครับ”

จากนี้จะวางตัวกับเต้ยยังไง ?
“จริงๆ เราทำอะไรทุกอย่าง ก็ด้วยความที่เต้ยเป็นผู้หญิง แล้วผมเป็นผู้ชาย มีอะไรผมก็ต้องให้เกียรติเขาก่อนเสมอ”

แฟนคลับว่ายังไงบ้าง ?
“อันนี้ยังไม่ทราบเหมือนกันครับ ต้องรอดูกันไปเรื่อยๆ เราสองคนมั่นใจ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เดือดร้อนใคร ทุกอย่างมีแต่ความจริงใจ ทุกอย่างมันเป็นความรู้สึกล้วนๆ ก็อยากจะให้ทุกคนเข้าใจด้วยครับ”

แบบนี้กระแสจะกระทบถึงคู่จิ้น “ธีรณี” หรือเปล่า ?
“มันเป็นความรู้สึก เป็นความคิดเห็นของแต่ละคนอยู่แล้วครับ เราไม่สามารถบังคับความรู้สึกของใครได้ อย่างที่บอกเราทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ มั่นใจว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็อยากจะให้เข้าใจกันด้วยครับ”

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/3933554/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

สื่อดังยืนยันอีกเสียง iPhone 8 จะไม่มี Touch ID แน่นอน

แบไต๋

สนับสนุนเนื้อหา

อย่างที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า Apple ไม่สามาถรพัฒนาตัวสแกนลายนิ้วมือลงในหน้าจอได้ทัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าฟีเจอร์ดังกล่าวจะถูกัดออก ล่าสุด The Wall Street Journal รายงานเพิ่มเติมว่าเราจะไม่เห็น Touch ID ใน iPhone 8 ที่กำลังจะเปิดตัวสัปดาห์นี้แน่นอน

ข่าวลือที่ Apple จะตัด Touch ID ที่เริ่มเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ปี 2013 ออกจาก iPhone รุ่นใหม่นี้นั้นก็มีออกมาหลายเดือนแล้ว Bloomberg กล่าวเอาวไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า Apple กำลังจะแทนที่ Touch ID ด้วยตัววิเคราะห์ใบหน้าใน  และหลังจากนั้นก็มีข้อมูลการวิเคราะห์ออกมาจากหลายๆ แหล่งข่าวพูดในแนวทางเดียวกันนี้

WSJ กล่าวว่า Apple กำลังจะเป็นผู้ริเริ่มในการฝัง Touch ID ลงบนหน้าจอ iPhone และเนื่องด้วยปัญหาหลายๆ อย่าง ประกอบกับที่ iPhone 8 จะใช้หน้าจอแบบ OLED Apple จึงเลือกที่จะตัด Touch ID ออกไป และแทนที่ด้วยตัววิเคราะห์ใบหน้าแทน

ทั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าหลังจากที่ iPhone 8 เริ่มวางขายแล้ว ของจะขาดตลาด และเกิดการส่งมอบล่าช้า ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าปัญหานี้จะเกิดกับ iPhone 8 สีใหม่เป็นสีแรก และก็จะค่อยๆ ลามไปทุกสีที่วางขายครับ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> http://hitech.sanook.com/1433825/

 

เทศกาลกินเจ 2560 การปฏิบัติตัว แนะนำอาหารเจ

เทศกาลกินเจ 2560 การปฏิบัติตัว แนะนำอาหารเจ

 

เทศกาลกินเจ 2560 ตรงกับวันที่ 20-28 ตุลาคม 2560 

เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ ไปจนกระทั่งขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 เราจะเห็นธงสีเหลืองมีตัวหนังสือสีแดง ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปตามร้านอาหาร 2 ข้างถนน นั่นบ่งบอกให้รู้ว่า เป็นช่วงเวลาของเทศกาลกินเจ

คำว่า "เจ" ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า "อุโบสถ" คำว่า "กินเจ" ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน ดังเช่นที่ชาวพุทธในประเทศไทยถือ "อุโบสถศีล" หรือ "รักษาศีล 8" จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีล ของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมเรียก "การไม่กินเนื้อสัตว์" ไปรวมกันคำว่า "กินเจ" ซึ่งเป็นการถือศีลไปด้วย ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ฉะนั้นความหมายก็คือ "คนกินเจ" มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน เช่นนี้แล้วจึงจะเรียกว่า "กินเจที่แท้จริง" ดังนั้น คำคล้องจองที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ "ถือศีลกินเจ" จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว

ตามร้านขาย "อาหารเจ" เราจะพบเห็นตัวอักษร คำนี้อ่าน "ไจ" (เจ) แปลว่า "ไม่มีของคาว"เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ ในช่วงเทศกาลกินเจเดือน 9 จะเห็นตัวอักษรนี้เขียนบนธงสีเหลือง ปักอยู่ตามแผงขายอาหารเจมองเห็นเป็นที่สะดุดตาแก่คนทั่วไป ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งสิริมงคลแก่ชีวิต สีเหลืองเป็นสีของผู้ทรงศีล ดังนั้นผู้ตั้งใจถือศีลบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ ตัวอักษรนี้ย่อมเป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกไว้เสอมว่า "การกินเจงดเว้นเนื้อสัตว์ของคาวคือ การปฏิบัติธรรม รักษาศีลของความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญมหาเมตตากรุณาธรรมโดยแท้ อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และก่อให้เกิดสันติสุขแก่ทุกชีวิตบนโลก"

ที่มาของเทศกาลกินเจ

เทศกาลเจ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีมาแล้ว ตามตำนานเล่าว่า เกิดมาในสมัยที่ชาวจีนถูกรุกรานโดยชนชาติแมนจู ซึ่งเข้าปกครองประเทศจีน และบังคับให้ชนชาติจีนยอมรับวัฒนธรรมของตน อาทิ การไว้ทรงผมเยี่ยงแมนจู คือ โกนศีรษะโล้นทางด้านหน้าและไว้ผมยาวทางด้านหลัง ซึ่งหลายคนคงจะชินตาในภาพยนตร์จีนที่นำมาฉายทางทีวี

ในสมัยนั้น มีคนจีนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันต่อต้านชาวแมนจู โดยใช้หลักทางธรรมเข้ามาร่วมด้วย ชาวจีนกลุ่มนี้ นุ่งขาว ห่มขาวและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ซึ่งมีความเชื่อว่า การประพฤติปฏิบัติตามแนวทางนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง ให้กับกลุ่มของตนจนสามารถต้านทานชาวแมนจูได้ คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "หงี่หั่วท้วง" ซึ่งแม้จะได้ต่อสู้อย่างอาจหาญ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของชาวแมนจูได้

เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ชาวจีนที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของชาวแมนจู จึงพากันถือศีลกินเจ เพื่อรำลึกถึงเหล่านักสู้ "หงี่หั่วท้วง" ที่ได้ต่อสู้พลีชีพในครั้งนั้น

ความเชื่อถืออีกกระแสหนึ่งของตำนานการกินเจนั้น เชื่อกันว่าเป็นการสักการะพระพุทธเจ้าในอดีต 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ในพิธีกรรมนี้ สาธุชนจึงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต หันมาบำเพ็ญศีล โดยการตั้งปณิธานในการกินเจ งดเว้นอาหารคาว เพื่อเป็นการสมาทานศีล 2 ประการ คือ

  1. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาบำรุงชีวิตของตน 
  2. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเลือดของตน 
  3. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเนื้อของตน

สำหรับเมืองไทยความเชื่อเรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นสักการะบูชาแก่ พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม อาจเนื่องจากการแพร่หลายของกการละเว้นการกินเนื้อวัว ในกลุ่มคนที่นับถือ "เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจ จึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะ

ความหมายของธงเจ

อักษรแดง บนพื้นเหลือง เขียนว่า "ไจ" หรือ "เจ" มีความหมายว่า "ของไม่มีคาว" สีแดงเป็นตัวแทนของความเป็นสิริมงคลในชีวิต ส่วนสีเหลืองเป็นสีของพุทธศาสนา หรือผู้ทรงศีล ธงเจนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตน "ถือศีล-กินเจ" ได้ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงระยะเวลา 9 วัน 9 คืน

 

การปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลกินเจ

เมื่อตั้งมั่นที่จะปฏิบัติศีลและกินเจ ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืนนี้แล้ว ก็ควรจะศึกษาข้อห้ามต่างๆ ที่บัญญัติไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัว โดยทั่วไปแล้วจะมีข้อปฏิบัติดังนี้

  • งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายต่อสัตว์ 
  • งด นม เนย หรือน้ำมันที่มาจากสัตว์ 
  • งดอาหารรสจัด หมายถึง อาหารรสเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก 
  • งดผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ รวมทั้งเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุน 
  • รักษาศีล 5 
  • รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ให้คงที่ 
  • ทำบุญ ทำทาน บางคนที่เคร่งอาจนุ่งขาว ห่มขาว

สำหรับคนที่กินเจอย่างเคร่งครัด นอกจากจะ "ถือศีล-กินเจ" แล้วยังต้องเลือกผู้ปรุงอาหารเจที่กินเจด้วย เพื่อให้ "อาหารเจ" นั้นบริสุทธิ์จริงๆ บางคนจะมีการคัดแยกภาชนะที่บรรจุอาหารหรือใช้ปรุงอาหาร แยกจากที่ใช้ใส่อาหารที่มีเนื้อสัตว์อย่างเด็ดขาด และในบางแห่งอาจพบว่ามีการจุดตะเกียงเก้าดวง ไว้เป็นเวลา 9 วันตลอดระยะเวลาการกินเจ เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณพ่อแม่ญาติพี่น้อง และเพื่อเป็นพุทธบูชา

กินเจ 2560

อาหารเจ

ปัจจุบันมีการยอมรับกันโดยทั่วไปถึงคุณค่าของ "อาหารเจ" เนื่องจากการรับประทานพืชผักในปริมาณที่มากกว่าปกติ งดเว้นเนื้อสัตว์ ทำให้กระเพาะได้พักจากภารกิจการย่อยเนื้อสัตว์ที่ทำประจำอยู่ และได้รับวิตามินเข้าไปเสริมสร้าง ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ รวมทั้งได้โปรตีนจากถั่วชนิดต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากโปรตีนที่เราได้รับจากเนื้อสัตว์ ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อนจากการรับสารอาหารย่อยยากจากแหล่งอาหารต่างๆ รวมทั้งยังได้รับพลังใจจากการที่ปฏิบัติตัวอยู่ในศีล ทำให้จิตใจอิ่มเอิบ เบาสบาย

หลายคนคิดว่า การรับประทานแต่อาหารเจจะทำให้เกิดโรคขาดอาหาร ทั้งที่สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคขาดอาหารนั้น มาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลัก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ที่กินเนื้อสัตว์และกินเจ ซึ่งมีนิสัยการบริโภคที่ไม่คำนึงถึงคุณค่าของสารอาหารที่ได้รับ

คนที่กินเจอย่างถูกหลักก็จะได้รับอาหารที่มีคุณค่า มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ การประกอบอาหารเจเพื่อรับประทานในช่วงนี้ จึงสามารถเลือกอาหารพวก ข้าวกล้อง (ใช้แทนข้าวขาว) โปรตีนเกษตร (แทนเนื้อสัตว์) ผักสด เห็ดหอม ถั่วนานาพันธุ์ เต้าหู้ แป้งหมี่กึง ทดแทน และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำเป็นอาหารชนิดต่างๆ 
        

แนะนำตำราทำอาหารเจ

อานิสงส์ของการกินเจ ประเพณีกินเจของชาวจีน ก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้านด้วยกันคือ

  1. ด้านศีลธรรม ผุ้กินเจจะปฏิบัตตนอยู่ในศีลธรรมอันดี มีความเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่เบียดเบียนผู้อื่นนับเป็นบุญกุศลใหญ่หลวง
  2. ด้านสุขภาพกาย ผู้กินเจจะมีสุขภาพกายดีเพราะไม่ดื่มของมึนเมา และไม่รับประทานเนื้อสัตว์ รวมทั้งอาหารประเภทไขมันสูง ทำให้ลดภาวะไขมันในเส้นเลือด ซึ่งมีอันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้อาหารจากเนื้อสัตว์มักมีเชื้อโรคปะปน เสี่ยงต่อการเป็นโรคภัย ผุ้กินเจเป็นประจำจึมีอายุยืนนาน
  3. ด้านสุขภาพจิต ผู้กินเจจะมีสุขภาพจิตที่ดี เพราะผลจากการปฏิบัติธรรมที่ไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น ให้อภัยซึ่งกันและกัน และมีความเมตตาต่อกันทำให้จิตบริสุทธิ์แจ่มใสตลอดเวลา
  4. ด้านเศรษฐกิจ ผู้กินเจสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะผักมักจะราคาไม่แพงเหมือนเนื้อสัตว์ทั่วๆไป
  5. ด้านสังคม ผู้กินเจจะมีความสามัคคีกัน เกิดการร่วมมือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
  6. ด้านการเมือง เนื่องจากการกินเจ หรืออาหารจากพืชผัก ไม่มีกรกำหนดทางเชื้อชาติศาสนา จึงมีผู้เข้าร่วมพิธีกรรมอย่างมากมาย ประกอบกับปลูกฝังให้ผุ้เข้าร่วมพิธีมีควมสามัคคีจึงไม่ก่อห้เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนบ้านเมืองสงบร่มเย็น ประชาชนอยู่กันอย่างประหยัด ภาวะเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นส่งผลให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

เจกับมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร

อาหารมังสวิรัติ คือ อาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบเช่นเดียวกับอาหารเจ แต่หากเป็นมังสวิรัตินั้น สามารถนำผักทุกชนิดมาประกอบอาหารได้ แต่อาหารเจ ต้องงดเว้นผักฉุน 5 ประเภท (ดังที่กล่าวมาแล้ว) รวมทั้งของเสพติดทุกชนิด และยังคงต้องประพฤติศีลร่วมด้วย จึงจะเป็นการ ถือศีล-กินเจ ที่แท้จริง ในขณะที่มังสวิรัติ หมายรวมถึงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เท่านั้น

การกินเจ นอกจากจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างบุญกุศลด้วยการละ เลิก เพื่อชีวิตแล้ว ในแง่ของสุขภาพร่างกายก็พลอยได้รับประโยชน์ร่วมด้วย เพราะถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ร่างกายมีโอกาสพักผ่อน จากการย่อยอาหารประเภทที่ย่อยยากทั้งหลาย 

กิน "เจ" ที่ภูเก็ต

"เจ" ที่ภูเก็ตมาจากรากฐานความเชื่อเดียวกัน คนจีนเรียก "เจเดือนเก้า" แต่ถ้านับตรงกับเดือนไทยก็จะได้ตรงกับเดือน 11 เทศกาลกินเจที่ภูเก็ตจึงมีขึ้นหลังเทศกาลกินเจทั่วๆ ไป บางครั้งเราจึงมักได้ยินเชื่อเรียกของเทศกาลกินเจที่ภูเก็ต ว่าเป็นเทศกาลกินผัก ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือการกินเจในรูปแบบและระยะเวลา 9 วันเช่นเดียวกัน

ความเชื่อเกี่ยวกับการกินเจที่ชาวภูเก็ตเล่าสืบต่อกันมาว่า มีคณะงิ้วจากเมืองจีนมาเปิดการแสดงที่กะทู้ แล้วบังเอิญเกิดโรคระบาด คณะงิ้วจึงจัดให้มีพิธีกินเจ และสร้างศาลเจ้าขึ้น ปรากฏว่าโรคระบาดก็หายไปสิ้น ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสจึงปฏิบัติตาม นับเนื่องจากนั้นมีผู้ศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ ชาวกระทู้จึงอยากให้พิธี "กินเจ" ของตนสมบูรณ์แบบ ตามแบบพิธีในมณฑลกังไส จึงได้ส่งตัวแทนไปนำเอาควันธูปกลับมา โดยการตั้งมั่นที่แรงกล้า เพราะพิธีการนำควันธูปกลับมานั้น ต้องจุดธูปต่อกันมิให้มอดดับได้ ศาลเจ้ากระทู้จึงเป็นศูนย์กลางของเทศกาลการกินเจที่ภูเก็ตเรื่อยมา จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ

9 วันแห่งพิธีกรรมของการกินเจที่ภูเก็ต

ตอนบ่ายก่อนวันเริ่มกินผัก จะมีพิธียกเสา "โกเด้ง" ขึ้นที่หน้าศาลเจ้า หรืออ๊าม เพื่อใช้เป็นที่แขวนตะเกียงทั้ง 9 ดวง และอัญเชิญดวงวิญญาณของยกอ๋องฮ่องเต้ หรือ พระอิศวร และ กิวอ๋องไตเต หรือ ราชาผู้เป็นใหญ่ทั้งเก้า ในตอนกลางคืนเพื่อมาประดิษฐาน ณ ศาลเจ้าหรือ อ๊าม

เช้าวันรุ่งขึ้นมีการจุดธูปขนาดใหญ่ ตั้งเครื่องเซ่นและเผาไม้หอม เพื่อบูชาเจ้าประจำอ๊าม

หลังพิธีการกินเจ หรือชาวภูเก็ตเรียก "การกินผัก" ผ่านไป 3 วัน จะถือว่าตัวเองมีความสะอาดแล้ว หรือเรียกว่า "เช้ง" (清)ในตอนค่ำมีพิธีการอันเชิญเทพเจ้าอีก 2 องค์ คือ "ลำเต้า" เจ้าผู้ถือบัญชีคนเกิด และ "ปักเต้า" เจ้าผู้ถือบัญชีคนตาย และทำพิธี "ปั้งกุ้น" หรือพิธีปล่อยพระ หรือการจัดทหารของเจ้าไปรักษาศาลเจ้าทั้ง 5 ทิศ เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย และภูตผีมาทำลายพิธี ความสนุกสนานเริ่มขึ้นตรงนี้ เมื่อการเชิญทหารเต็มไปด้วยร่างทรงของตัวละคร อาทิ เห้งเจีย บู๊สง เป็นต้น

ในวันที่เจ็ด เริ่มพิธี บูชาดาว เพื่อขอความเป็นสิริมงคล รักษาโรคภัยไข้เจ็บ

สองวันสุดท้าย เป็นความตื่นเต้นท้าทาย เมื่อมีการจัดขบวนพิธีแห่อย่างมโหฬาร เพื่อนำเกี้ยวไปรับพระจำหลักที่สะพานหิน เป็นการระถึงวันที่ควันธูปจากมณฑลกังไสมาถึงภูเก็ต ในขบวนแห่จะมีการแสดงอิทธิฤทธิ์ของม้าทรง หรือ คนทรงเจ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จะเห็นภาพของการใช้ของมีคมต่างๆ ทิ่มแทงตามร่างกาย มีทั้งง้าว ลูกตุ้มเหล็กฟาดหน้าฟาดหลัง เอาขวานจามหลัง หรือเอาเหล็กแหลมทิ่มแทงร่างกาย หรือแทงลิ้น จนกระทั่งเฉือนลิ้นตัวเองออกมา โดยท้าทรงเหล่านั้นอ้างว่าไม่มีความเจ็บปวดใดๆ ขณะเป็นร่างทรง ม้าทรงจะเดินเต้น ไปทั่วเมือง ชาวบ้านจะตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้เพื่อให้เจ้าไปโปรดและมีการจุดประทัดตลอดเส้นทาง ทั้งเกาะปกคลุมด้วยควันธูปและประทัด

วันที่เก้า จะมีพิธีศักดิ์สิทธิ์ คือ พิธี "โก๊ยโห้ย" หรือพิธีลุยไฟสะเดาะเคราะห์ ม้าทรง หรือเจ้าจะเดินผ่านกองไฟ ที่มีถ่ายร้อนแดงเป็นระยะทางกว่า 2 ฟุต และตามด้วยผู้ที่ถือศีลกินเจที่มีความมั่นใจว่าตัวเองสะอาดแล้ว ก็สามารถร่วมลุยไฟได้ด้วยเช่นกัน ในตอนกลางคืนจะมีพิธีปีนบันไดมีด สูงประมาณ 12 เมตร และจบลงที่ยามดึกของคืนวันที่ 9 จะมีการแห่พระไปส่งทะเลบริเวณสะพานหิน และนำเสาโกเต้งลงดับโคมไฟทั้ง 9 เป็นเสร็จพิธีกินเจที่ภูเก็ต

กินเจ ที่ภูเก็ต ออกไปในแนวสนุกสนาน ตื่นเต้น ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งพิสูจน์ไม่ได้ แต่หลายคนที่ไปดูด้วยตาตนเอง ยังพกความตื่นตาตื่นใจ เป็นประสบการณ์มาถึงปัจจุบัน และเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมการกินเจอีกรูปแบบหนึ่ง

รอบรู้เรื่องการกินเจ

Image result for กินเจ site:sanook.com

ถ้าจะกินเจ ต้องห้ามกินอะไรบ้าง

อีกไม่กี่สัปดาห์เทศกาลกินเจก็ใกล้จะเข้ามาถึงแล้ว บางคนอาจจะถือศีลกินเจมาอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่สำหรับคนที่เพิ่งจะตัดสินใจเริ่มในปีนี้ก็ต้องขอบอกเอาไว้ก่อนว่า การกินเจก็คือการกินผัก กินอาหารที่เป็นชีวะจิต งดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ทุกประเภท รวมถึงการถือศีลอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีวิธีและข้อห้ามที่ชัดเจนที่เราควรระลึกได้อยู่เสมอ อย่างการกินผัก ก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถกินผักได้ทุกประเภทนะ

อ่านเพิ่มเติม: http://horoscope.sanook.com/70961/

Image result for กินเจ site:sanook.com

กินเจอย่างไร ให้ได้บุญสูงสุด

การถือศีลกินเจนับได้ว่าเป็นการทำบุญรูปแบบหนึ่งที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมปฏิบัติกันเป็นประจำทุกปี หรือแม้แต่ช่วงหลังๆ นี้ ชาวไทยแท้ๆ เองก็หันมากินเจกับเขาบ้าง เพื่อเป็นการชำระล้างจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ อีกทั้งยังเป็นการดูแลตัวเองรูปแบบหนึ่ง เคยสงสัยกันรึเปล่าว่ากินเจยังไงให้ได้บุญมากที่สุดล่ะ ? เช่นกัน เคยได้ยินคำพังเพยว่า “ตักบาตรอย่าถามพระ” รึเปล่า ?

อ่านเพิ่มเติม: http://horoscope.sanook.com/89125/

จริงหรือไม่? กินเจห้ามออกกำลังกาย

ออกกำลังกาย ในช่วงกินเจ ได้หรือไม่

การกินเจก็เปรียบเสมือกับการรับประทานอาหารปกติ ผู้ที่ถือศีลกินเจสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าสำหรับคุณหนุ่มๆ สาวๆ ที่รักการออกกำลังกาย หรืออยากสร้างกันเป็นจริงเป็นขนาดนั้น อยากให้ลดระดับความเข้มลงมาเสียหน่อย อาจะเป็นการออกกำลังกายปกติที่ไม่หนักมาก หากรับประทานอาหารประเภทโปรตีนไม่มากพอ การสร้างกล้ามเนื้อก็จะไม่เป็นอย่างที่เคย เผลอๆ อาจทำให้ร่างกายมีอาการอ่อนเพลียได้ง่ายอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: http://health.sanook.com/1565/

กินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน และไม่ขาดสารอาหาร

ทานเจอย่างไร ให้อ้วนน้อยที่สุด

ถึงแม้ว่าการถือศีลกินเจจะเป็นการงดเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด และหันมารับประทานพืชผักแทน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ากินเยอะๆ แล้วจะไม่อ้วนได้ นั่นเพราะว่าเรายังคงรับสารอาหารที่เป็นแป้งเข้าสู่ร่างกายอยู่ อย่าง ข้าว หรืออาหารที่เป็นเส้นซึ่งก็ทำมาจากแป้งเช่นกัน ฉะนั้นเราก็ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นว่าให้กินพืชผักสดๆ มากกว่าที่จะผ่านการดอง รวมถึงข้าว แนะนำว่าเป็นข้าวกล้องมากกว่าข้าวขาว

อ่านเพิ่มเติม: http://health.sanook.com/1465/

มาดูการกินเจตามดวง กินตามราศี

บางครั้งการกินเจถึงแม้จะมีการงดเว้นอาหารประเภทต่างๆ แต่เราก็ไม่ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารทุกอย่าง นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน ระบบการทำงานต่างๆ ก็ยังแตกต่างกันมาก การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดก็จะเป็นผลดีต่อร่างกายทีเดียว แนะนำว่าให้เลือกรับประทานอาหารตามราศีดู ไม่ได้แปลว่าทานเข้าไปแล้วจะช่วยให้ดวงดี แต่การกินเจตามดวงตามราศีนั้นผ่านการคิดมาแล้วว่าร่างกายของคนแต่ละราศีเป็นอย่างไร

อ่านเพิ่มเติม: http://horoscope.sanook.com/89865/

 

อ่านเรื่องราวเทศกาลกินเจเพิ่มเติมได้ที่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

สิว.. เป็นปัญหาผิวแห่งเกิดขึ้นได้ในทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ฤดูกาลใดก็ตาม แต่ในที่นี้เราจะมาพูดถึงการเกิดสิวในช่วงหน้าฝนกันค่ะ สภาพอากาศที่ชื้นๆ แบบนี้ มีหรือไม่คะที่ผิวหน้ากระผมจะไม่เปรอะและเกิดสิวง่าย เรามาดูกันดีกว่าว่าที่มาสรรพสิ่งการเกิดสิวหน้าฝนหมายถึงอย่างไร พร้อมด้วยจะดูแลรับมืออย่างไรดี

สาเหตุของการเกิดสิวในหน้าฝน

เชื่อมั้ยนินทาสภาพอากาศก็มีส่วนกระทำให้เกิดสิวได้เช่นเดียวกันนะคะสาวๆ เพราะสิวมักเกิดขึ้นช่วงหน้าร้อน และหน้าฝนมากกว่าในหน้าหนาว ข้างนอกจากฮอร์โมน ความเครียด พันธุกรรม การใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากน้ำมันแล้ว การรับประทานยาบางชนิดอีกต่างหากเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ด้วย ข้างนอกจากนี้ สภาพอากาศและแสงแดดก็นับเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้ค่อนข้างมาก เพราะรังสี UV จากแดดจักทำให้ต่อมขนมีการอักเสบ พร้อมทั้งยังสามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันเกิดการผลิตน้ำมันออกมาได้มากขึ้น จึงก่อให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวได้ในที่สุด ยิ่งกับหน้าฝนด้วยแล้ว ความชื้นจะมีอยู่ในอากาศค่อนข้างสูงและยิ่งส่งผลทำให้เป็นสิวง่ายมาก โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย P.acnes จะเกิดการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในที่ที่มีเหงื่อ เชื้อโรค และมีฝุ่นละอองสะสมเข้าไปหมักหมมมากยิ่งขึ้น หากไม่ดูแลทำความสะอาดผิวให้ดี สิวก็จะผุดขึ้นมาในในสุด

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?
ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?
 

วิธีดูแลผิวเมื่อเป็นสิวในช่วงหน้าฝน

เพราะหน้าฝนยังไม่ตายช่วงที่สภาพอากาศประกอบด้วยความชื้น บวกกับสิ่งสกปรกที่จับตัวกันบนผิวจนเกิดการหมักหมม ทำให้เชื้อแบคทีเรียสิวเจริญเติบโตจนเป็นสิวได้ง่าย ดังนั้น ข้าจึงควรใส่ใจรับมือดูแลปัญหาสิวในช่วงหน้าฝนให้ดี โดยอันดับแรกควรล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำเช้า-เย็น ด้วยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนโยน เลี่ยงเลี่ยงการขัดหน้าแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดความระคายเคือง และหากมีสิวขึ้นหน้าอยู่ ก็ไม่ควรกด เลาะหรือบีบสิวอย่างเด็ดขาด ก็เพราะว่าจะยิ่งทำให้สิวแย่ลงมากขึ้นได้ อีกทั้งยังมีรอยแดง และรอยดำรวมถึงปัญหาแผลเป็นจากสิวซึ่งชำระคืนเวลาในการรักษาสิวให้หายค่อนข้างนาน

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?
ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

การใช้โทนเนอร์เช็ดหน้า ก็สมควรเลือกประเภทที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เกี่ยวกับป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ในส่วนสิ่งครีมบำรุงผิวควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ พร้อมทั้งเป็นครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดีควรหลีกเลี่ยงการทาในจุดที่มีสิว

พร้อมทั้งที่สำคัญ อย่าลืมทาครีมกันแดดภายในตอนกลางวันเพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุข้าวของเครื่องใช้การเกิดสิว หากทำได้ตามนี้ก็จะทำให้สิวหายได้เร็วขึ้นค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://women.sanook.com/blog/77039/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มีวิธีรักษาสิวอะไรบ้าง