วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ระเบิดกลางคอนเสิร์ต Ariana Grande ในอังกฤษ ตาย 19 เจ็บ 50

ระเบิดกลางคอนเสิร์ต Ariana Grande ในอังกฤษ ตาย 19 เจ็บ 50

ระเบิดกลางคอนเสิร์ต Ariana Grande ในอังกฤษ ตาย 19 เจ็บ 50

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

(23 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 05.00 ที่ผ่านมา ตามเวลาในไทย เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้ง ภายในแมนเชสเตอร์ อารีน่า เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต The Dangerous Woman Tour ของนักร้องสาววัยรุ่นชื่อดัง อาเรียนา แกรนเด (Ariana Grande) แฟนเพลงต่างวิ่งหนีตายออกมาอย่างอลหม่าน ซึ่งรายงานล่าสุดระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 19 ราย บาดเจ็บกว่า 50 ราย ตำรวจได้สั่งอพยพและขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงบริเวณดังกล่าว

พยานระบุเสียงระเบิดเกิดขึ้นขณะที่นักร้องสาวเพิ่งร้องเพลงสุดท้ายจบ จากนั้นเธอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งมีเลือดโชก ผู้คนต่างพากันกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ซึ่งตอนนั้นมีควันไฟออกมาจำนวนมาก

ทั้งนี้ Ariana Grande เตรียมบินมาเปิด คอนเสิร์ต “เดอะ แดนเจอรัส วูแมน ทัวร์”  ที่เมืองไทยในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้คงต้องติดตามต่อไปว่านักร้องสาวจะยังคงออกทัวร์คอนเสิร์ตต่อไปหรือไม่

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2236882/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

...เมนูนี้ ชิ้งน้อยภูมิใจเสนอมากค่ะ สมัยก่อนเวลาจะกินไก่ย่างที ต้องรีบเข้าครัวไปหมักเย็นนี้ พรุ่งนี้ค่อยกิน เพราะอยากให้ซอสต่างๆซึ้มซับเข้าไปในเนื้อไก่และได้รสชาติที่เข้มข้น แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องคอยนานแบบนั้นอีกแล้วค่ะ เพียง30นาที กับเครื่องปรุงไม่กี่อย่าง ก็สามารถเนรมิตรไก่ย่างหน้าตาดี ทำง่าย อร่อยเว่อร์แย้วววววว ส่วนเทคนิคนั้นจะเป็นอะไร ตามมาชมกันได้เลยจ้า...

 

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

1 ปีกไก่

2 รากผักชี กระเทียม พริกไทยดำโขลกละเอียด

3 น้ำมันหอย

4 ซีอิ้วขาว

5 น้ำปลา

6 ซอสปรุงรส

7 น้ำตาลทราย

วิธีทำ

1 ตั้งกระทะเจียวรากผักชี กระเทียม พริกไทยดำโขลกละเอียดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำปลา ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ชิมแล้วปรับจนคว้ารสชาติที่ชอบ

 

2 ใส่ปีกไก่ตามลงไปภายในกระทะ คลุกเคล้าซอสต่างๆให้เคลือบไก่โดยทั่ว ผัดเที่ยวไปเรื่อยๆจนไก่สุกระดับหนึ่ง เทคนิคนี้จะช่วยทุ่นเวลาอบหรือย่างไก่ในขั้นตอนถัดไปด้วยค่ะ แถมทำให้ซอสสุดเข้มข้นเคลือบไปบนชิ้นไก่ทุกชิ้น ชนิดไม่ต้องคอยนานมากด้วย

 

3 สุดท้ายนำไปอบด้วยไฟ 180 ประมาณ 15นาที และ 200 อีกซัก 5 นาที รวมหมดนี้คอยดูด้วยนะคะ ระวังจะไหม้ค่ะ หรือถ้าบ้านใครไม่มีเตาอบ สามารถนำไปย่างหรือทอดก็ได้เช้กันค่ะ

 

เป็นไงคะ เห็นมะ บอกแล้วว่าทำง่ายมั่กๆเลย มาชมผลงานอีกครั้งนะคะ

 

"ก่อนจะลาจากกันไปในวันนี้ ชิ้งขอฝากหนังสือ cookbook เล่มแรกในชีวิตสิ่งของชิ้งไว้ในอ้อมใจเพื่อนๆด้วยนะคะ ในเล่มมีถึง 50 เมนู ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นเลยจ้า หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านนายอินทร์ Kinokuniya ซีเอ็ด B2S และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หน้าปกเป็นข้าวผัดปลาทู ด้านหลังปกจะมีชิ้งยืนยิ้มให้อยู่จร้า ^ ^"

ข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/blog/23799/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แต่งตัว

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำฝ่ายนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

การขัดผิวเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก และยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก แต่การขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีเท่านั้นที่ทำแล้วได้มาผล ซึ่งวิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกต้องเหมาะสมจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะหลายครั้งสาวๆ ทำแล้วกลับมีผิวหน้าหมองคล้ำกลับมาแทนที่ วันนี้เราเลยจะมาสู่แนะนำเป้าหมายในการขัดผิวอย่างชอบวิธีให้ได้ทราบดังนี้ค่ะ

ตอนมีชีวิตสิวควรขัดหน้าดีไหม?

ในช่วงที่อยู่เป็นสิว สาวๆ ไม่ควรขัดผิวหน้าอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นการเสด็จรบกวนสิวให้ยิ่งอักเสบลุกลามหนักรุ่งโรจน์ได้ หรือหากต้องการขัดผิวหน้าจริงๆ แนะนำส่งให้พยายามขัดในส่วนผิวทั่วไปปกติ หลีกเลี่ยงงานลูบไล้จุดที่มีสิวขึ้นเด็ดขาด พร้อมทั้งควรล้างหน้าให้สะอาดปราศจากฟองตกค้าง จะได้ไม่เป็นอาหารสิวต่อไป

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วางแผนวันขัดผิวไว้บ้างก็ดี

การขัดผิวหน้า บางครั้งสาวๆ ก็จำเป็นจะต้องรู้จักวางแผนช่วงเวลาณการขัดผิวเหมือนกันนะคะ จริงอยู่ที่เราควรขัดผิวในตอนกลางคืนเท่านั้นแล้วก็จะเหมาะสม แต่อย่างไรก็ดี สำหรับสาวๆ ที่ขัดผิวหน้าแต่ก่อนนอน แต่หากตอนเช้ามีทริปหรือมีเหตุจำเป็นจะต้องไปทำกิจกรรมกลางแดด หรือไปทะเล เรียกง่ายๆ ว่าหากผิวหน้าจักต้องเผชิญกับแสงแดดมีชีวิตเวลานาน ในช่วงนี้ควรเลื่อนการขัดผิวหน้าไปก่อนเป็นดีที่สุด เนื่องจากช่วงที่เราขัดผิวใหม่ๆ ผิวหน้าจะยิ่งบอบบางและไวต่อแดดอย่างมาก เสี่ยงในจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำกับมีปัญหาระคายเคืองกลับมาได้มานั่นเอง

ขัดผิวหน้าอย่างเบามือทุกครั้ง

ผิวหน้าของคนเรามีความบอบบางมากกว่าผิวส่วนอื่นๆ ดังนั้น ขณะขัดผิว สาวๆ จึงควรลูบไล้ผิวโดยขัดแบบเป็นวงกลมอย่างเบามือที่สุด โดยทำเช่นนี้จนทั่วทั้งใบหน้า เน้นหน้าผาก จมูก แก้มสองข้างและคางเป็นพิเศษ และหากส่วนใดที่มีสิวเสี้ยนก็อาจจะพยายามขัดผิวบริเวณนั้นย้ำบ่อยๆ ซึ่งเวลาในการขัดก็ควรอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้<b><i>สิว</i></b> ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

ควรทาครีมกันแดดหลังขัดผิวอยู่เสมอ

แม้จะขัดผิวในตอนกลางคืนก็ตาม แต่ในทุกๆ เช้าหลังจากทาครีมบำรุงผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ก็ต้องทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV อยู่เสมอ โดยควรเลือกชนิดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวหน้าบอบบางและไวต่อแดดกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ไม่เช่นนั้น แสงแดดจะทำลายผิวหน้าให้หมองคล้ำได้ และหากจะให้ดี พยายามเดินหลบเลี่ยงแสงแดดไว้ด้วยจะดีที่สุด หรืออาจจะกางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้างกันแดดอีกทีก็ได้

บำรุงผิวทุกครั้งหลังขัด

หลังไปขัดผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ควรทาครีมบำรุงผิวหน้าที่ประกอบด้วยส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวหน้ายิ่งสุขภาพดี เนียนนุ่มสดใสจริงขึ้น

รู้กันแบบนี้แล้ว จากนี้ไปก็หันมาขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำจากเรากันนะคะ เพื่อผิวหน้าจะได้ขาวกระจ่างใสไร้สิว ไม่มีริ้วรอยและความหมองคล้ำมาเยือนง่ายอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/80203

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มีวิธีรักษาสิวอะไรบ้าง

โรเจอร์ มัว คลิป

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://video.sanook.com/player/1049197/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

ฟิลิปปินส์ประกาศกฏอัยการศึก หลังไอเอสขู่วางระเบิดทั้งเมือง

ฟิลิปปินส์ประกาศกฏอัยการศึก หลังไอเอสขู่วางระเบิดทั้งเมือง

ฟิลิปปินส์ประกาศกฏอัยการศึก หลังไอเอสขู่วางระเบิดทั้งเมือง

Workpint TV

สนับสนุนเนื้อหา

(23 พ.ค. ) เมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ทางตะวันออกสุดของประเทศ เกิดการสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธมาอูเต (Maute) ซึ่งสนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กว่า 50 คน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย คนขับรถฉุกเฉินถูกยิงเสียชีวิตอีก 2 คน

โดยมีการเผาทัณฑสถาณเพื่อปล่อยนักโทษ และยังเผาสถานศึกษา มีการบุกรุกเข้าไปในโรงพยาบาล มีการจับคนในโรงพยาบาลเป็นตัวประกัน รวมไปถึงการทำร้ายผู้หญิงที่ไม่ได้สวมฮิญาบ หลังจากนั้นได้ประกาศให้ชาวบ้านออกจากบ้านและอพยพภายใน 6 ชั่วโมง ก่อนจะวางระเบิดทั่วทั้งเมือง ด้านเจ้าหน้าที่และกองกำลังทหารของทางการฟิลิปปินส์ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

โซเชียลมีเดีย พากันติดแฮชแท็ก #Prayformarawi และ #Prayfortheworld หลังจากมีเหตุการณ์รุนแรงในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทั้งในไทย อังกฤษ และล่าสุดที่ฟิลิปปินส์

สำหรับกลุ่มมาอูเต เป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธบนเกาะมินดาเนา ที่ประกาศสนับสนุนไอเอสในซีเรียและอิรัก เคยก่อเหตุลักพาตัวเรียกค่าไถ่และวางระเบิดอยู่หลายครั้ง

ประธานาธิบดีฟิลลิปปินส์ นายโรดริโก ดูเตอร์เต เคยกล่าวว่าว่าจะจัดการกับกลุ่มไอเอสที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายทางตอนใต้ของประเทศ หากไม่สามารถจัดการได้ จะประกาศใช้กฎอัยการศึก

และล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่เกาะมินดาเนา เป็นระยะเวลา 60 วัน และเดินทางกลับประเทศฟิลิปปินส์โดยเร็วที่สุด

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2238466/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น...โรคกระเพาะ

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น...โรคกระเพาะ

วิธีดูแลตนเองเมื่อเป็น...โรคกระเพาะ

ในสังคมปัจจุบันมีแต่การแข่งขัน ทำอุปถัมภ์การดำเนินชีวิตที่แต่ละวันของทุกคนต้องเร่งรีบไปด้วย ส่งผลให้สุขภาพของคนในสังคมแย่ลงและปัญหาทาง สุขภาพที่พบได้บ่อย คือ การเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น ซึ่งโดยทั่วไปเราเรียกกันว่า “โรคกระเพาะ”

โรคกระเพาะเป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง ประมาณว่าคนทั่วไปมีโอกาสเป็นโรคนี้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต โดยการเกิดแผลในกระเพาะมักพบในวัยกลางคน ขณะที่การเกิดแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นจะพบในวัยหนุ่มสาว อย่างไรก็ตามการเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นสามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกเพศและทุกวัย

สาเหตุ เกิดจากมีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากเกินเที่ยวไปร่วมกับความต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ลดลง จึงทำให้มีแผลเกิดขึ้น และปัจจุบันพบว่ายังมีปัจจัยเสริมอื่นๆที่ทำให้เกิดโรคได้อีก ได้แก่
1
1. การติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobactor Pylori ) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่โทรโดยการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระของผู้ติดเชื้อ เชื้อนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปฝังตัวอยู่ใต้เยื่อบุกระเพาะ ผนังกระเพาะจึงอ่อนแอลงและมีความทนต่อกรดลดลง ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเกิดแผลได้ง่าย แผลหายช้า และเกิดแผลซ้ำได้อีก
2. รับประทานสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะและลำไส้ เช่น ดื่มชา กาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดจำพวกแอสไพริน ยารักษาโรคกระดูกและข้ออักเสบ ยาชุดหรือยาลูกกลอนที่มีสเตียรอยด์ เป็นต้น
3. มีอุปนิสัยการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง เช่น การรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ รับประทานไม่เป็นเวลาหรืออดอาหารบางมื้อ เป็นต้น
4. การสูบบุหรี่ เพิ่มโอกาสข้าวของการเป็นแผลที่ลำไส้เล็กส่วนพืชพันธุ์
5. อื่นๆ เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล คิดมาก นอนไม่หลับ เครียด อารมณ์หงุดหงิด พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น

อาการของโรคกระเพาะมักมีอาการปวดแสบ ปวดตื้อ จุกเสียดไม่ก็จุกแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่ อาการปวดเหล่านี้เป็นได้ทั้งเวลาก่อนรับประทานอาหารหรือหลังรับประทานอาหารใหม่ๆและเวลาท้องว่าง เช่น เวลาหิวข้าว ตอนเช้ามืดหรือตอนดึกๆก็ปวดท้องได้เช่นกัน อาการปวดจะเป็นๆหายๆ เป็นได้วันละหลายๆครั้ง หรือตามมื้ออาหาร และแต่ละครั้งที่ปวดจะนานประมาณ 15 – 30 นาที อาการปวดจะบรรเทาลงได้ถ้ารับประทานอาหาร ดื่มนมหรือรับประทานยาลดกรด

อาการแทรกซ้อน
โรคกระเพาะถ้าได้มารับการรักษาและดูแลตนเองให้ถูกต้องส่วนใหญ่เป็นแล้วจะหาย แต่ถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องจนมีอาการมากและกินเวลาอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ เช่น

- เลือดออกในกระเพาะอาหาร เพราะว่าสังเกตได้จากมีถ่ายอุจจาระสีดำหรืออาเจียนเป็นเลือดหรืออาเจียนมีลักษณะคล้ายผงกาแฟบดปนอยู่

- กระเพาะลำไส้เป็นแผลทะลุ โดยสังเกตได้พลัดมีอาการปวดท้องรุนแรงทันทีทันใด หน้าท้องแข็ง กดเจ็บ

- กระเพาะลำไส้ตีบตัน โดยสังเกตได้จากมีอาการปวดท้อง รับประทานข้าวได้น้อย อิ่มเร็ว และอาเจียนเป็นอาหารที่ไม่ย่อยหลังรับประทานอาหาร

การดูแลตนเอง

รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
2. รับประทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย และควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด
3. หลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร เช่น ยาชุด ยาแก้ปวดข้อ ยาซ่อมปวดแอสไพริน ยารักษาโรคที่มีสเตียรอยด์ น้ำอัดลม อาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ช็อคโกแลต ชา กาแฟ เป็นต้น
4. งดสูบบุหรี่
5. อาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อไม่ควรมีปริมาณมากเกินไป
6. ถ้าเครียดพยายามลดความเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ทำสมาธิ การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น
7. หมั่นออกกำลังกาย
8. รับประทานยาลดกรด ยาน้ำ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ หรือยาเม็ด 1 - 2 เม็ด(เคี้ยวก่อนกลืน) วันละ 4 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็นหลังอาหาร 1 ชั่วโมง และก่อนนอน กรณีมีอาการปวดท้องก่อนเวลายาสามารถรับประทานเพิ่มได้และควรรับประทานยาติดต่อกันนานอย่างน้อย 4 - 8 สัปดาห์
9. ถ้าปฏิบัติตามนี้แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่แน่นอน
10. รับประทานยาสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ
ปวดท้องแบบไหนที่ใช่โรคกระเพาะ ?

ปวดท้องดีเลิศพลัน นับหมายความว่าการปวดรุนแรงที่สามารถไม่เคยเกิดขึ้นมาเพรง โดยเราต้องข้อความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดจากโรคอื่นที่ไม่ใช่โรคกระเพาะก็เป็นได้ อาทิ โรคนิ่วในถุงน้ำดี หรือตับอ่อนอักเสบ เป็นต้น
ปวดท้องเรื้อรัง นับเป็นอาการปวดท้องที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด จะมีลักษณะอาการเป็นปวดๆ หายๆ ต่อเนื่องกันมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน อาจเป็นการปวดท้องที่เกี่ยวข้องกับมื้ออาหาร เช่น ปวดขณะที่หิว หรือปวดขณะที่อิ่ม แต่เป็นการปวดที่ทนได้ ซึ่งเมื่อรับประทานยาลดกรด หรือรับประทานอาหารแล้วก็มีอาการดีขึ้น
โรคในกระเพราะอาหารที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดเรื้อรัง ได้มีแพทย์ท่านหนึ่งอธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ว่าสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด เริ่มจาก โรคที่เกิดจากความผิดปกติของกระเพาะอาหาร เช่น การเป็นแผลในกระเพาะ เป็นแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น กระเพาะอาหารอักเสบ หรือเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ซึ่งอัตราที่จะเกิดโรค หรือภาวะเหล่านี้นั้นมีประมาณร้อยละ 20 - 25 ของผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง

นอกจากนั้น โรคกระเพาะก็อาจขึ้นไปได้ จรดแม้ว่าจะไม่มีข้อความผิดปกติทางกายภาพภายในกระเพราะเลย แต่ก็อาจเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากการทำงานที่ผิดปกติ อาทิ การบีบตัวของกระเพาะกับลำไส้ที่ทำงานไม่ประสานกัน หรืออาจเกิดจากสภาพกรดในกระเพาะที่มีมากเกินไป แต่ไม่ทำให้เกิดแผล ซึ่งสาเหตุที่ว่ามานี้ก็ทำให้ผู้ป่วยร้อยละ 70 - 75 ต้องเดินทางมาพบแพทย์ แต่ถึงยังไงก็ตาม ความผิดปกติภายในกระเพาะอาหารที่เกิดจากกรดนั้น ผู้ป่วยก็อาจไม่มีอาการปวดท้องเสมอไป โดยผู้ป่วยหลายรายอาจมีอากัปกิริยาอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ มีสาเหตุมาจากแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดมาจากกรดเกิน ในบางรายอาจมีอาการแสบแน่นที่หน้าอกเนื่องจากกรดไหลย้อน ทำให้หลอดอาหารอักเสบ รวมไปถึงมีอาการไอ เนื่องจากมีการอักเสบขึ้นมาถึงคอ โดยรวมแล้วก็เป็นเรื่องของโรคกระเพาะอาหารทั่วสิ้น

อ้างอิง

พิศาล ไม้เรียง,(2536).โรควิถีทางเดินอาหาร การวินิจฉัยและการรักษา.(พิมพ์ครั้งที่ 2).ขอนแก่น : โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
เฟื่องเพชร เกียรติเสวี,(2541).โรคระบบทางเดินอาหาร.(พิมพ์ครั้งที่1).กรุงเทพฯ:เรือนแก้ว การพิมพ์.
สุรเกียรติ อาชานานุภาพ,(2543).ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป.(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : อุษาการพิมพ์.
วันทนีย์ เกรียงสินยศ,(2548).กินอย่างไรเมื่อเป็นโรคกระเพาะ. ใน ประเวศ วะสี(บรรณาธิการ).หมอชาวเหย้าเรือน.(ปีที่ 26 ฉบับที่ 311,หน้า 52-54).

งานการพยาบาลป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพ
ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ผู้เรียบเรียง รุ่งฤดี จิณณวาโส และ ภัทราพร พูลสวัสดิ์

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/441/

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดรพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน มีผู้บาดเจ็บนับ 10 ราย 

วันนี้ (22 พ.ค.) เกิดเสียงดังระเบิด บริเวณตึกเฉลิมพระเกียรติชั้นที่ 1 โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ มีกลุ่มควันลอยฟุ้งจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนที่มาใช้บริการ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน

เบื้องต้นมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 ราย  ส่วนสาเหตุและความเสียหายต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

หากมีรายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2235186/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ตร.รอผลตรวจสารเสพติด "แอนนารีส" 3 สัปดาห์

ตร.รอผลตรวจสารเสพติด "แอนนารีส" 3 สัปดาห์

ตร.รอผลตรวจสารเสพติด "แอนนารีส" 3 สัปดาห์

INN News

สนับสนุนเนื้อหา

รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง รอผลตรวจสารเสพติด-ประวัติการกระทำผิด '' 3 สัปดาห์ ก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการ

พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรักษาการผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ น.ส.แอนนา แฮมบาวรีส หรือ แอนนา รีสอายุ 30 ปี ดารา-นางแบบสาว หลังก่อเหตุเมาแล้วขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ชนกับรถยนต์ผู้อื่นเสียหาย เมื่อวานที่ผ่านมา

หลังจากตำรวจสอบสวน แอนนา รีส และ คุมตัวไปตรวจหาสารเสพติด ที่ รพ.ตำรวจ แล้ว ได้อนุญาตให้ประกันตัวไปตีราคาประกัน 20,000 บาท 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2236870/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

สูตรขัดผิวขาว เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

สูตรขัดผิวขาว เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

สูตรขัดผิวขาว เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

ลองเลย! เนียนนุ่ม แบบบ้านๆ ส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอย

อากาศแบบนี้ แปลงให้ไม่อยากออกไปไหน คงไว้บ้านสิคะดีที่สุด...แต่ทว่าอยู่บ้านจะทำอะไรปันออกเกิดประโยชน์กับตัวเอง สำหรับทิชชี่แล้ว การบ่มผิว และทำผิวให้มีความสว่างขึ้นด้วย "สูตรขัดผิว" แบบบ้านๆ ใช้ส่วนผสมง่ายๆ นั่นคือสิ่งที่ทิชชี่ทำเสมอค่ะ

อีกด้วยความที่ตั้งแต่ทิชชี่คลอดลูกออกมาสู่ ผิวพรรณหมองคล้ำดำเขียวไปมาก มิมีเวลาขัดๆ ถูๆ เหมือนตอนสาวๆ บอกเลยสำหรับมนุษย์แม่แล้ว อย่าว่าแต่เวลาจะขัดสีฉวีวรรณร่างเลย กาลจะอาบน้ำยังมีน้อยมาก เข้าห้องน้ำอาบน้ำที ก็ระแวงกลัวว่าลูกน้อยจักร้องอุแว้ๆ ที ร้องคราวก็ต้องหอบร่างเปียกๆ วิ่งออกมาคอยดูลูกว่า เกิดอะไรขึ้น นางเป็นอะไร เฮ้อ

ออออ

กลับเข้าสู่เรื่องของเรากันต่อ เวลานี้อากาศเมืองไทยบ้านเรา แดดแรงจัดหนักมากๆ ร้อนแสบผิวประหนึ่งเหมือนตกอยู่ในนรกขนาดนี้ อย่าถามถึงผิว เพราะมีความพังขั้นสุดค่ะ

ขัดผิวขาว

สูตรขัดผิวขาว ส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ในสูตรขัดผิวขาว

อย่าปล่อยให้ผิวเสียหายไปมากกว่านี้ มาหาเวลาฟื้นฟูผิวให้สวยในเวลาอันเร่งรีบ ด้วยส่วนผสมหาซื้อได้ที่หน้าปากซอยไปพร้อมกับทิชชี่เถอะค่ะ

สำหรับคุณแม่ๆ ที่มี "น้ำนมสต๊อก" เหลือเฟือ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างของตัวเองได้เลยนะคะ พร้อมแล้วตามมาเลย!


ส่วนผสมสำหรับ "สูตรขัดผิวขาว" เพื่อผิวสวย มีดังนี้ค่ะ

สูตรขัดผิวขาว น้ำนมแม่น้ำนมแม่ เยี่ยมจริงๆๆ 

1 น้ำนมแม่ หรือ นมสด 
ปรารถนามีผิวเนียนประหนึ่งก้นเด็ก ต้องห้ามขาดสิ่งนี้เลย จุดนี้ทิชชี่จัดหามาลองใช้น้ำนมที่คั้นสดๆ จากเต้าของตัวเองมาเป็นส่วนผสมนะ น้ำนม มีส่วนช่วยละลายเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกได้โดยง่าย สามารถทำความสะอาดผิวได้ลึกลงไปจนถึงชั้นผิวชั้นใน โปรตีนใน "น้ำนม" จะกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวจึงประกอบด้วยความยืดหยุ่น นุ่มนวลขึ้นจัดหามาอย่างง่ายดายค่ะ ข้างนอกจาก "น้ำนมแม่" จะฟรี ยังดีแสนดีด้วยนะ

สำหรับสาวๆ ที่ไม่มี "น้ำนม" เป็นของตัวเอง ใช้ "นมสด" แทน ผิวก็นุ่มไม่แพ้กันนะคะ

 

สูตรขัดผิวขาว เกลือสปาเกลือขัดผิวสูตรน้ำนม หอมเกินห้ามใจ

2 เกลือขัดผิว 
จริงๆ มีให้เลือกใช้มากมาย หลายยี่ห้อ แต่ที่ทิชชี่เลือกใช้ตัวนี้เพราะ หาซื้อง่าย และราคาถูก ไม่เกิน 40 บาทค่ะ เป็นเกลือสปาขัดผิวสูตรน้ำนมที่กลิ่นหอมนำ หอมแรงมากๆ ช่วยขจัดสิ่งสกปรก คราบขี้ไคลตามซอกได้เริ่ด ด้วยส่วนผสมของเกลือและน้ำนม จะทำผิวเปล่งปลั่ง ขาวเนียนสดใส นุ่ม น่าสัมผัสกว่าเดิมนะ

 

สูตรขัดผิวขาว ทานาคาทานาคาแท้ของพม่า

 

สูตรขัดผิวขาว ทานาคา ขมิ้นทานาคา ผงขมิ้น

3 ทานาคา หรือ ขมิ้นผง
ตัวทานาคา หรือ แป้งที่ชาวพม่าใช้ทาหน้าขาวนั้น ทิชชี่ซื้อมาจากฝั่งชายแดน จ.กาญจนบุรี จ๊ะ ราคาถูกเช่นกัน ไม่เกิน 20 บาท (ที่เมืองกรุงฯ หาซื้อที่ไหนลองเซิร์ทข้อมูลที่อากูเกิ้ลเอานะคะ) สรรพคุณของสมุนไพรธรรมชาติ วิธี ทานาคา ช่วยปรับผิวหมองคล้ำให้ขาวผ่องเป็นยองใย ช่วยลดผดผื่น คันจากการแพ้ จุดด่างดำ จางลง ดังเห็นได้ชัดจ๋า

หาก "ทานาคา" หาซื้อยากเกินเสด็จพระราชดำเนิน จัด "ขมิ้นผง" ของไทยเราแทนคว้า ก็ดีไม่แพ้กันนะ (ทิชชี่ซื้อจากแม่ค้าหาบของขาย ที่ตีนสะพานลอยแถวบ้านค่ะ) ราคาถุงละ ไม่เกิน 20 บาท ขมิ้นมีคุณสมบัติช่วยณการบำรุงผิว เอาเป็นว่า ใครอยาก "ผิวขาวเหลืองทองเหมือนขมิ้น" ขัดขวางขาดตัวนี้เด็ดขาด

 

สูตรขัดผิวขาว น้ำมันมะพร้าวน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์


4 น้ำมันมะพร้าว
คือดีจริงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าใช้ได้หมด ทิชชี่ใช้มาตั้งแต่ก่อนท้อง จนตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ เพราะติดใจความดีงามค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคานะ น้ำมันมะพร้าวมีแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยต่อต้านการเติมออกซิเจนที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดชั้นเซลล์ผิวหนังที่ถึงอายุขัย ให้หลุดออกไปจากผิวหนัง และกระตุ้นให้เกิดเซลล์ใหม่ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนวัย ไร้รอยเหี่ยวย่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังเป็นอย่างดีด้วยนะ

 

นำส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้มายำใส่กัน ในสัดส่วนที่กะตามความเหมาะสมเลยจ้า แต่อย่าให้เหลวเกินไปนะ

สูตรขัดผิวขาวส่วนผสมทั้งหมด หน้าตา น่ากินไหมคะ

 

 

สูตรขัดผิวขาว

นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสม คนให้เข้ากัน

 

ขั้นตอนการขัดผิวขาวปิ๊ง

สูตรขัดผิวขาว

- ทำตัวให้เปียก ด้วยการล้างน้ำสะอาด แต่สำหรับทิชชี่ อาบด้วยน้ำนมตัวเองเลยจ้า ได้อรรถรสดีนะ

สูตรขัดผิวขาว

ซูมเนื้อทรายแบบใกล้ๆ มีความละเอียดมากๆ 

 

- เมื่อเนื้อตัวชุ่มฉ่ำได้ที่อยู่ ละเลงเกลือที่ผสมไว้ลงบนร่าง (เมื่อเกลือน้ำนม มาเจอกับน้ำนมสดๆ ข้าวของเครื่องใช้ทิชชี่ กลิ่นหอมได้ใจ น่ากินมากๆ) ค่อยๆ ทำทีละจุด ขัดๆ วนๆ เป็นวงกลม ขัดให้ทั่วร่าง เน้นหนักๆ ติดสอยห้อยตามผิวด้านๆ หนาๆ อย่าง ข้อศอก ขาหนีบ ตาตุ่ม ขัดได้ แต่อย่าแรง ไม่งั้นแสบระคายเคือง ไม่รู้ด้วยนะ ขัดเสร็จหากมีเวลาอีกสักนิด(ยามลูกหลับ) ทิ้งร่างแดนเต็มไปด้วยเกลือวางสัก 15 นาที 

 

สูตรขัดผิวขาว

 

- ล้างออกให้สะอาด จบอาบน้ำตามปกติ คุณจะสัมผัสได้เลยค่ะ แหวผิวมีความขาวอมเหลืองขึ้นไปมานิสสส (อันนี้มโนเองว่าขาว อิอิ) แต่ความเนียนนุ่มของผิวนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนค่ะ จากผิวแข็งหยาบกระด่าง นุ่มนิ่มดั่งตูดลูก พุ่งขึ้นมาทันตาเห็น แถมมาด้วยความหอมน่ากินที่เต็มไปด้วยกลิ่นของเกลือสูตรน้ำนม กับ น้ำนมแม่สดๆ  

สูตรขัดผิวขาวในส่วนของขา ดำจนแยกไม่ออก แต่มีความเนียนนะ ขอบอก ^^

 

- อาบน้ำเสร็จ ก่อนเช็ดตัว ทาน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วร่าง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น ได้ความผ่อนคลายขึ้นค่ะ

 สูตรขัดผิวขาว

*** สำหรับส่วนผสมที่ใช้มิหมด นำมาใส่กระปุก ปิดฝาให้แน่น แช่ตู้เย็น เก็บไว้ชำระคืนต่อครั้งต่อไปได้อีก

*** หากหาส่วนผสมไม่ครบ และเพื่อความสะดวก อาจใช้แค่ "น้ำนมแม่" และ "เกลือขัดผิว" ก็ผิวเด้งมิแพ้กันนะคะ

สูตรขัดผิวขาวแยกออกไหมคะ ว่าข้างไหนผ่านการขัดถูๆ มาแล้ว อิอิ 

 

การขัดสีฉวีวรรณผิว ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมิแพ้การดูแลผิวหน้าเลยนะ ร่างกายของเราสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นทุกวัน เพื่อทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่หมดอายุและหลุดลอกเองตามธรรมชาติ การขัดผิวจึงเป็นทางเลือกหนึ่งข้างในการกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ทางบดบังความสดใสของผิว อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวสดใสขึ้นเช่นเดียวกัน

การขัดผิวที่ดี จงทำอย่านุ่มนวล ไม่ตะบี้ตะบันขัดให้เสร็จๆ ไป ด้วยกันไม่ควรขัดบ่อยเกิน เพราะจะทำให้ผิวอ่อนไหว ไม่ทนแดด ทำให้ผิวแห้งกร้านได้ง่าย

ทางที่ดี ควรขัดผิวเดือนละ 1-2 ครั้ง ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่าได้ขาด ไม่นานผิวของสาวๆ ขาวเนียน นุ่ม น่าสัมผัส จักแต่งตัวแบบไหน ก็มั่นใจได้แล้วค่ะ

สูตรง่ายๆ แบบนี้ ไม่ดีจริง ไม่นำมาบอกต่อนะ เอาเป็นว่า เวลานี้ทิชชี่ขอตัวจาก ขัดๆ ถูๆ ผิวที่ดำๆ เขียวๆ ก่อนนะ บะบายยยยย

ดูลายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/48325/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้<b><i>สิว</i></b> ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำร่างนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

การขัดผิวเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก และยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก แต่การขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีเทียมถึงนั้นที่ทำแล้วหาได้ผล ซึ่งวิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกต้องเหมาะสมจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะหลายครั้งสาวๆ ทำแล้วกลับมีผิวหน้าหมองคล้ำกลับมาแทนที่ วันนี้เราเลยจะลงมาแนะนำแผนการในการขัดผิวอย่างสัมผัสวิธีให้ได้ทราบดังนี้ค่ะ

ตอนหมายถึงสิวควรขัดหน้าดีไหม?

ในช่วงเขตเป็นสิว สาวๆ เปล่าควรขัดผิวหน้าอย่างเด็ดขาด เพราะว่าอาจเป็นการเสด็จรบกวนสิวให้ยิ่งอักเสบลุกลามหนักขึ้นได้ หรือหากต้องงานขัดผิวหน้าจริงๆ แนะนำมอบให้พยายามขัดในส่วนผิวทั่วไปปกติ หลีกเลี่ยงงานลูบไล้จุดที่มีสิวขึ้นเด็ดขาด และควรล้างหน้าให้สะอาดปราศจากฟองตกค้าง จักได้ไม่เป็นอาหารสิวต่อไป

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วางแผนวันขัดผิวไว้บ้างก็ดี

การขัดผิวหน้า โปร่งบางครั้งสาวๆ ก็ควรรู้จักวางแผนช่วงเวลาแห่งการขัดผิวเหมือนกันนะคะ จริงอยู่ที่เราควรขัดผิวในตอนกลางคืนเท่านั้นแล้วก็จะเหมาะสม แต่อย่างไรก็ดี สำหรับสาวๆ ที่ขัดผิวหน้าที่แล้วนอน แต่หากตอนเช้ามีทริปหรือมีเหตุจำเป็นจะต้องไปทำกิจกรรมกลางแดด หรือไปทะเล เรียกง่ายๆ ว่าหากผิวหน้าจักต้องเผชิญกับแสงแดดยังมีชีวิตอยู่เวลานาน ในช่วงนี้ควรเลื่อนการขัดผิวหน้าไปก่อนเป็นดีที่สุด เพราะช่วงที่เราขัดผิวใหม่ๆ ผิวหน้าจะยิ่งบอบบางและไวต่อแดดอย่างมาก เสี่ยงถิ่นจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำกับมีปัญหาระคายเคืองกลับมาคว้านั่นเอง

ขัดผิวหน้าอย่างเบามือทุกครั้ง

ผิวหน้าของคนเรามีความบอบบางมากกว่าผิวส่วนอื่นๆ ดังนั้น ขณะขัดผิว สาวๆ จึงควรลูบไล้ผิวโดยขัดแบบเป็นวงกลมอย่างเบามือที่สุด โดยทำเช่นนี้จนทั่วทั้งใบหน้า เน้นหน้าผาก จมูก แก้มสองข้างและคางเป็นพิเศษ และหากส่วนใดที่มีสิวเสี้ยนก็อาจจะพยายามขัดผิวบริเวณนั้นย้ำบ่อยๆ ซึ่งเวลาในการขัดก็ควรอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

ควรทาครีมกันแดดหลังขัดผิวอยู่เสมอ

แม้จะขัดผิวในตอนกลางคืนก็ตาม แต่ในทุกๆ เช้าหลังจากทาครีมบำรุงผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ก็ต้องทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV อยู่เสมอ โดยควรเลือกชนิดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวหน้าบอบบางและไวต่อแดดกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ไม่เช่นนั้น แสงแดดจะทำลายผิวหน้าให้หมองคล้ำได้ และหากจะให้ดี พยายามเดินหลบเลี่ยงแสงแดดไว้ด้วยจะดีที่สุด หรืออาจจะกางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้างกันแดดอีกทีก็ได้

บำรุงผิวทุกครั้งหลังขัด

หลังทิ้งขัดผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ควรทาครีมบำรุงผิวหน้าที่ประกอบด้วยส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวหน้ายิ่งสุขภาพดี เนียนนุ่มสดใสล้ำขึ้น

รู้กันแบบนี้แล้ว จากนี้ไปก็หันมาขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำจากเรากันนะคะ เพื่อผิวหน้าจะได้ขาวกระจ่างใสไร้สิว ไม่มีริ้วรอยและความหมองคล้ำมาเยือนง่ายอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/80203

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สิวมีกี่แบบ

โรเจอร์ มัว คลิป

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://video.sanook.com/player/1049197/

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดรพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน มีผู้บาดเจ็บนับ 10 ราย 

วันนี้ (22 พ.ค.) เกิดเสียงดังระเบิด บริเวณตึกเฉลิมพระเกียรติชั้นที่ 1 โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ มีกลุ่มควันลอยฟุ้งจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนที่มาใช้บริการ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน

เบื้องต้นมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 ราย  ส่วนสาเหตุและความเสียหายต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

หากมีรายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2235186/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

“นอนไม่หลับ” กับ 8 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น

“นอนไม่หลับ” กับ 8 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น

หลายคนคงเคยประสบปัญหาเรียน ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ตกดึกก็อยากจะหลับให้เต็มอิ่มสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไมตอนกลางคืนหนังตากลับตึง ไม่ง่วงหนังตาหย่อนเหมือนตอนเช้าเลยล่ะ ขืนเป็นอย่างนี้นานวันเข้าจะเสียการเสียงาน เสียสุขภาพจิตเอานะ ถ้าอยากนอนหลับสบายเหมือนเดิม ตาม Sanook! Health มารับมือกับอาการนอนไม่หลับกันเถอะ

เมื่อไหร่จึงเรียกว่านอนไม่หลับ ?

เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ต้องขออธิบายให้รู้ว่าการนอนไม่หลับนั้นไม่ใช่โรค แต่นับเป็นปัญหาการนอนที่ไม่เพียงพอ ทำให้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น โดยอาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่ การทำงาน และความสัมพันธ์ต่อผู้อื่นได้ ซึ่งหลายๆ คนก็อาจมีความรู้สึกเมื่อนอนไม่หลับได้หลายรูปแบบ เช่น นอนหลับยาก ต้องใช้เวลานานถึงจะหลับ , นอนหลับไม่สนิท , นอนหลับๆ ตื่นๆ , นอนเร็วกว่าปกติ , ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น เหมือนไม่ได้หลับ เมื่อเกิดอาการนี้มากๆ เข้า หลายคนก็หมกมุ่นอยู่กับอาการของตนจนไม่เป็นอันทำอะไร

ปัญหาการนอนไม่หลับนั้นแบ่งออกได้เป็นหลายแบบ ขึ้นอยู่กับระยะเวลา ดังนี้ ..

การนอนไม่หลับแบบชั่วคราว
การนอนไม่หลับแบบเป็นๆ หายๆ
การนอนไม่หลับแบบเรื้อรัง
การนอนไม่หลับส่งผลกระทบอย่างไร ?

คุณภาพชีวิตที่ดีลดลง
อัตราของการขาดงานเพิ่มขึ้น
ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ความสามารถในการดำเนินชีวิตลดลง
อาจเกิดประสบอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งมีรายงานว่า หากขับรถ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 2.5 เท่า
มีการใช้บริการทางแพทย์สูงขึ้น อันเนื่องมาจากปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เฉื่อยชา รู้สึกไม่สดชื่น หงุดหงิด ขาดสมาธิ เป็นต้น
การนอนไม่หลับ ในผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคทางจิตเวช มีรายงานพบว่าอาจเสี่ยงต่อการเป็นซ้ำอีก รวมถึงเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นในผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าด้วย
8 วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ :

1. จัดห้องนอนประทานเหมาะสมแก่การนอน เช็ครอบห้องให้ดี อย่าให้มีเสียงรบกวนสอดเข้ามาได้ ควรปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป สำคัญเลยคือ ห้องนอนควรมืดสนิท เพื่อการนอนหลับที่ดี มีประสิทธิภาพ

2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หลังช่วงบ่ายจนจดช่วงก่อนนอน

3. ก่อนนอน ดื่มนมอุ่นๆ สักแก้ว จะช่วยให้งีบสบายยิ่งขึ้น

4. ไม่ควรงีบหลับในตอนกลางวัน เพราะอาจรบกวนการนอนในยามค่ำคืนได้  ถ้าง่วงจนทนไม่ไหวจริงๆ ก็อย่างีบหลับเกิน 1 ชั่วโมงเป็นอันขาด

5. นอนจ่ายเพียงเมื่อ อย่านอนมากเกินไป หลังตื่นนอนควรลุกออกละเตียง แล้วเดินไปสูดอากาศยามเช้าซะดีกว่า

6. เข้านอน และตื่นนอนให้เป็นเวลา ทำให้ติดเป็นนิสัย ไม่ใช่ว่าคืนนี้นอนดึก พรุ่งนี้บิณฑบาตตื่นสายสักนิดได้ไหม? ตอบเลยว่า ไม่ได้ ไม่งั้นอาจจะกระทบกับเวลานอน ทำให้อาการนอนไม่หลับกลับมาอีก

7. ถ้านอนไม่หลับเกิน 15-20  นาที ควรลุกออกจากเตียงมาหากิจกรรมอย่างอื่นทำ อย่างเช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือวิชาการหรือธรรมมะ น่าจะช่วยให้รู้สึกง่วงได้ไม่น้อย  หลีกเลี่ยงการดูโทรทัศน์หรือเล่นคอมพิวเตอร์ เพราะแสงจากจอ จะกระตุ้นให้สมองตื่นตัวได้

8. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์ การออกกำลังกายจะช่วยลดความตึงเครียดทางอารมณ์และร่างกายได้ หากออกกำลังกายในช่วงเช้า และเย็นได้ผลดีที่สุด ไม่จงออกกำลังกายตอนดึก หรือใกล้เวลานอน เพราะอุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นและไปกระตุ้นสมองให้ทำงาน จะทำให้เราหลับยากกว่าเดิม

 

ง่ายใช่ไหมล่ะ ไม่จำเป็นต้องซื้ออะไร หรือขอความช่วยเหลือจากใคร แค่เปลี่ยนที่ตัวเราเองเท่านั้น รู้แบบแผนผังนี้แล้วใครกำลังเจอกับปัญหาการนอนไม่หลับ อย่าลืมนำไปใช้และบอกต่อกันด้วยนะ ทวงคืนความสุขในการนอนของเรากลับมากันเถอะ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://health.sanook.com/3833/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อน

ฟิลิปปินส์ประกาศกฏอัยการศึก หลังไอเอสขู่วางระเบิดทั้งเมือง

ฟิลิปปินส์ประกาศกฏอัยการศึก หลังไอเอสขู่วางระเบิดทั้งเมือง

ฟิลิปปินส์ประกาศกฏอัยการศึก หลังไอเอสขู่วางระเบิดทั้งเมือง

Workpint TV

สนับสนุนเนื้อหา

(23 พ.ค. ) เมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ทางตะวันออกสุดของประเทศ เกิดการสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธมาอูเต (Maute) ซึ่งสนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กว่า 50 คน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย คนขับรถฉุกเฉินถูกยิงเสียชีวิตอีก 2 คน

โดยมีการเผาทัณฑสถาณเพื่อปล่อยนักโทษ และยังเผาสถานศึกษา มีการบุกรุกเข้าไปในโรงพยาบาล มีการจับคนในโรงพยาบาลเป็นตัวประกัน รวมไปถึงการทำร้ายผู้หญิงที่ไม่ได้สวมฮิญาบ หลังจากนั้นได้ประกาศให้ชาวบ้านออกจากบ้านและอพยพภายใน 6 ชั่วโมง ก่อนจะวางระเบิดทั่วทั้งเมือง ด้านเจ้าหน้าที่และกองกำลังทหารของทางการฟิลิปปินส์ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

โซเชียลมีเดีย พากันติดแฮชแท็ก #Prayformarawi และ #Prayfortheworld หลังจากมีเหตุการณ์รุนแรงในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทั้งในไทย อังกฤษ และล่าสุดที่ฟิลิปปินส์

สำหรับกลุ่มมาอูเต เป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธบนเกาะมินดาเนา ที่ประกาศสนับสนุนไอเอสในซีเรียและอิรัก เคยก่อเหตุลักพาตัวเรียกค่าไถ่และวางระเบิดอยู่หลายครั้ง

ประธานาธิบดีฟิลลิปปินส์ นายโรดริโก ดูเตอร์เต เคยกล่าวว่าว่าจะจัดการกับกลุ่มไอเอสที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายทางตอนใต้ของประเทศ หากไม่สามารถจัดการได้ จะประกาศใช้กฎอัยการศึก

และล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่เกาะมินดาเนา เป็นระยะเวลา 60 วัน และเดินทางกลับประเทศฟิลิปปินส์โดยเร็วที่สุด

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2238466/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดรพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน มีผู้บาดเจ็บนับ 10 ราย 

วันนี้ (22 พ.ค.) เกิดเสียงดังระเบิด บริเวณตึกเฉลิมพระเกียรติชั้นที่ 1 โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ มีกลุ่มควันลอยฟุ้งจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนที่มาใช้บริการ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน

เบื้องต้นมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 ราย  ส่วนสาเหตุและความเสียหายต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

หากมีรายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2235186/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

เสียงดังคล้ายระเบิดใน รพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดรพ.พระมงกุฏเกล้า เจ้าหน้าที่-คนไข้ หนีตายอลหม่าน มีผู้บาดเจ็บนับ 10 ราย 

วันนี้ (22 พ.ค.) เกิดเสียงดังระเบิด บริเวณตึกเฉลิมพระเกียรติชั้นที่ 1 โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ มีกลุ่มควันลอยฟุ้งจำนวนมาก ส่งผลให้ประชาชนที่มาใช้บริการ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน

เบื้องต้นมีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 ราย  ส่วนสาเหตุและความเสียหายต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

หากมีรายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2235186/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

Before & After สวยไม่เกิน 100 บาท! เคล็ดลับหน้าขาวใสมาก สูตรหน้าใส

เคล็ดลับหน้าขาวใสไร้รอยสิว จากผู้หญิงหน้าสิว มีรอยดำ เธอได้ลองพอกหน้าด้วยสูตรนี้ เธอคนนี้ใช้นามแฝงว่า คุณ หญิงเชื่อในพระเจ้า สมาชิกจาก http://pantip.com/ สูตรหน้าใสที่เห็นผลจริงภายใน 2 เดือนข้าวของเธอจะมีส่วนผสมอะไรค่อย ตามมาดูกันได้เลยค่ะ

สวัสดีค่ะ เราอยากเเชร์ความสวยผ่านพันทิปจ๋า เรามีเคล็ดลับที่ไม่ลับดีดีมาให้ทุกคนอ่านค่ะ

อยากให้อ่านข้อความก่อนนะคะ ยาวนิดหน่อยเเต่สาระเยอะค่ะ

เราทั้งเป็นคนผิวคล้ำมากค่ะ เราชอบทำอะไรเคลื่อนที่เรื่อยกับหน้าตัวเอง เอาอะไรมาพอกหน้า จนเต็มไปหมด คือเราอยากให้หน้าขาวค่ะ นั่นมันคือความฝันสิ่งผู้หญิงที่อยากหน้าขาวเนียน

ไอ้จุดพีคมันตรงที่ มันเป๊ะมากค่ะ ดิฉันพอกหน้าสูตรนี้มา เกือบ 2 เดือนละค่ะ ละที่หน้าสิวจนถึงเพื่อนล้อก็หายไป พอละค่ะไม่เกริ่นหนาตา ลงมาดูรูปเราตอนมีสิว และหลังจากที่ดิฉันคิดสูตรนี้ขึ้นมาหา

นี่ค่ะ รูปตอนเป็นสิว เป็นริ้วรอยมาก ไปอะไรนี่อายค่ะ ในรูปอาจไม่เห็นสิวมาก แต่ความจริงมันมากตึ๊ดตื๋อค่ะ เยอะมาก

 

เคล็ดลับหน้าขาวใส

 

และนี่หลังจากใช้ไป

มิได้เเต่งหน้า เเละกล้องฟรุ้งฟริ้งอะไรทั้งนั้น เราเปิดเเฟลต รอยอะไรจักเห็นชัดแหล่เพราะยังไม่ตายกล้องธรรมดา อิอิ ภูมิใจค่ะเที่ยวไปไหนไม่ต้องอายอีกสร้างไป

เริ่มสูตรเลยดีกว่าค่ะ

* สิ่งที่ต้องเตรียม*

1. เกลือขัดผิว ค่ะ ตามรูป ราคา 39 บาท
2. น้ำผึ้งเเท้ ค่ะ (ของเราใช้ของสวนจิตรดา)
3. ไข่ 1 ฟอง แค่นี้ค่ะ

สูตรหน้าใส

เดี๋ยวก่อน มาอ่านประโยชน์แต่ละตัวก่อนค่ะ

เกลือขัดผิว - ตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่สูตรน้ำนมบริสุทธิ์จ๋า ขจัดสิ่งสกปรก หัวมันจี้ดหน้าเเสบหน้าแผลไม่ใช่หรือสิวที่ใบหน้า จะแห้งลงค่ะ อีกอย่างทำให้ผิวนุ่มมาก
น้ำผึ้ง - ทุกคนคงไว้รู้ดี ไม่ว่า ครีม สบู่ขัดผิวต่างๆ ภาคมากจักมีส่วนผสมน้ำผึ้ง เพราะทำให้ผิวดีค่ะ มีวิตามินเอ บี2 บี3 บี5 บี6 วิตามินซี และธาตุอีกเยอะขา ทำให้ผิวนุ่มนวล ผิวดี อิ่มน้ำเดินทางเลยก็ว่าได้ค่ะ
ไข่ขาว - ไข่ขาวตรงนั้นลดความมันเครื่องใช้ใบหน้าค่ะ หน้าตึง รักษาและสร้างเซลล์ผิวใหม่จ๋า

พอจะรู้เเล้วใช่มั้ยคะว่าทำไมต้องนำมาผสมกัน 55555

เริ่มทำกันเลยค่ะ

1. ไข่ขาวครึ่งนึงจากที่มีอยู่ข้าวของไข่ค่ะ อ่าวอย่างงสิคะ รวมความว่าว่า ไข่ขาวเศษหนึ่งส่วนสองนึงค่ะ 555

2. น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาพอค่ะ

3. เกลือขัดผิว 3 ช้อนชาค่ะ แล้วก็คนให้เข้ากักคุมค่ะ

หยุดก่อน..!!

แน่นอนอยู่แล้วไปการจะให้เข้ากันมันยาก เพราะเกลือ ขนาบกันเป็นก้อน ฉะนั้นเราต้องต้มน้ำให้เดือด แล้วนำถ้วยไปวางแล้วคนให้เข้ากันค่ะ เพราะความร้อนจะทำให้เกลือเเยกออกจากกัน ขอโทษค่ะ ลืมถ่ายภาพมาก ลงความว่าคนให้เข้ากันพอเป็นน้ำเหลวพอค่ะ เพราะเดี๋ยวไข่ขาวสุกพอดี ได้แบบตรงนี้ค่ะ


ตอนนี้กระทู้ก็ยังไม่ตายที่สนใจนะคะเลยอยากเเก้ไขว่า มีอยู่คนถามเยอะเลยเรื่องทำไมจำต้องต้ม คือพริกไทยหรือแป้งเจอน้ำเย็นก็จะติดกันเป็นก้อนๆ เหมือนเกลือค่ะ ยิ่งเป็นไข่ด้วย หนูเลยคิดว่า เอาไปละลายจะทำให้เกลือไม่ติดกันค่ะ ทว่าพี่ๆ บางคนไม่อยากเสียเวลามาก ก็คนๆ ให้เข้ากันก็เมื่อค่ะ


จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วหน้าค่ะ

 

หน้าจะเป็น เกล็ดน้ำเล็กๆ เกาะเข้าอยู่

* สำหรับคนมีสิว มีเเผล จะเเสบหน่อยค่ะ เเต่ทนเพราะมันแข็งจะทำให้เเห้งค่ะ *



ทิ้งไว้ 10 นาที ค่ะ หลังจากนั้นล้างออก หน้าจะอิ่มมาก หน้าสดชื่น นุ่มมาก ขาวขึ้นเพื่อค่ะ ขออนุญาตเเค่ทำบ่อยๆ นะคะ


ขอบคุณค่ะ ที่อ่านจนจบ ดิฉันไม่ได้หลอกลวงหรือไม่อย่างไร ดิฉันนึกว่าดีค่ะเเละอยากให้สาวๆ ทุกคนหาได้ลองดูค่ะ

 อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/36049/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้หญิงอยากรู้