วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำ ที่ทางทีมงาน Sanook! Travel ขอหยิบมาแนะนำในช่วงหน้าหนาปีนี้ครับ ในสายหมอกเป็นรีสอร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องข้าวของเครื่องใช้วิว เช้าคุณจักตื่นมาพบปะกัหมอกที่รับรองว่าหากได้มาเยือน ที่นี่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่อนนครับ เกี่ยวจากอาณาบริเวณตั้งอยู่ในหุบเขาจึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

gedc0114 

รีสอร์ทนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่อยู่กับธรรมชาติเปล่าเป็น และต้องการหามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เพราะเราเป็นรีสอร์ท ในสไตล์การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีแอร์ และเครื่องอำนวยความสะดวกเขตเกินจำเป็น นะค่ะ
เราทุกคนเกิดมาจากธรรมชาติ จำต้องจะเคารพธรรมชาติ และอยู่กับธรรมชาติประการรักธรรมชาติ  

4


ส่วนใครทีนึกภาพของคุณ ไม่ออกก็ลองเข้า Google ดูนะรับรองไม่มีใครไม่รู้จักเธอแน่นอน

ลายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.sanook.com/1401669/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

“ดาว มยุรี” ยัน สวยวันสวยคืนเพราะสวดมนต์

ใครที่ได้เข้าไปดูอินสตาแกรมของ นักร้องสาวลูกทุ่ง “ดาว มยุรี” @dao_mayuree เป็นต้องตะลึงในความสวยและน่ารักราวกับตุ๊กตาบาร์บี้

วันนี้ (28 ธ.ค.59) ทีมนิวมีเดียพีพีทีวี สัมภาษณ์นักร้องสาวลูกทุ่ง “ดาว มยุรี” ตราบเท่าความสวยที่เฉิดฉายออกมาจนทะลุอินสตาแกรม (ไอจี) ที่สาว “ดาว มยุรี” โพสต์ลงไอจีบ่อยๆ และจากการสอบถามถึงความตรูที่ดูผิดตา ได้รับรับสารภาพคำตอบจากนักร้องสาวสวยรายนี้ว่า เป็นเพราะช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีอยู่ 3 เรื่องที่ทำไม่ขาด ได้แก่

1.สวดมนต์บทอาราธนาศีล 5 ก่อนนอนทุกคืนไม่เคยเว้นแม้แต่คืนเดียว ดุจดังสวดมนต์จิตก็ได้รับบุญทำให้สวยจากภายใน รวมถึงการทำบุญเป็นประจำ 2.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ส่วนตัวสาวดาว มยุรี จะออกกำลังกายด้วยการตีแบดมินตัน และวิ่งเบาๆ และ 3.ไม่ดื่มแอลกอฮอล์

ส่วนที่มีการคอมเม้นท์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่าไปอัพหน้ามาใหม่ ไม่ใช่หรือไปศัลยกรรมหน้าเพิ่ม เรื่องนี้ “ดาว มยุรี” ยืนยันว่าไม่ได้ไปทำศัลยกรรมหน้าเพิ่มมาแต่อย่างใด สิ่งที่ทำในช่วง 5-6 เดือนนี้นอกจาก 3 ข้อที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็มีแค่การร้อยไหมหน้าเท่านั้น

“ยืนยันว่าไม่ได้อัพหน้าหรือไม่ไปทอนตัดหน้ามาใหม่ ที่สวยหาได้เพราะ สวดมนต์ ทำบุญ ออกกำลังกาย และไม่ดื่มแอลกอฮอล์” ดาว มยุรี กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2143834/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

ปั่นป่วนไปทั่วเมือง Facebook Safety Check ระบบแจ้งเตือนภัยดัง แจ้งกรุงเทพฯ มีระเบิด ผู้คนแห่กดแชร์ตามๆ กัน ยืนยันไม่มีเหตุใดเกิดขึ้น

(27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ไทม์ไลน์เฟซบุ๊กเต็มไปด้วยข้อความเตือนภัยเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกแชร์ไปทั่ว โดยพบว่ามาจากระบบ Facebook Safety Check ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนภัยแบบเรียลไทม์ แต่จากการตรวจสอบไม่พบเหตุระเบิดใดเกิดขึ้น

ขณะที่ผู้ผู้มีชีวิตในโลกโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์พร้อมกับช่วยตรวจสอบกรณีที่เกิด ขึ้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุ Facebook Safety Check ถูกรบกวนหรือขัดข้อง ทำให้เกิดการแจ้งเตือนขึ้นมา ทั้งนี้ยังมีตั้งข้อสังเกตว่า เว็บไซต์ข่าว Bangkok Informer ได้นำข่าวเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อเดือนสิงหาม 2558 มาโพสต์แชร์ซ้ำอีกครั้งในวันนี้ คงจะจะทำให้เกิดความผิดพลาดในระบบข่าวออนไลน์


นอกจากนี้ ผู้คนในโลกออนไลน์บางคนต่างได้รับแจ้งเตือนภัยจากผู้ใช้คนอื่นๆ ในลักษณะส่งต่อกันเรื่อยๆ เพื่อใช้สำหรับเตือนภัยเหตุร้าย ขณะนี้บางส่วนก็ตั้งข้อสงสัยว่า การปล่อยข่าวลือแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับการแฮ็กระบบ ด้วยว่าสร้างสถานการณ์ใดๆ หรือไม่

ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความข้างในเฟซบุ๊กว่า "อันนี้เฟซบุ้คมั่วนะครับ ไม่ได้มีเหตุระเบิดอะไร ไม่ต้องโดนหลอกให้กดรายงานรูปว่าปลอดภัยกันนะครับ มันมั่วมาจากข่าวระเบิดราชประสงค์ปีก่อน มีเพจคลิ้กเบจเอามาโพสต์ซ้ำ เฟซบุ๊กเลยโดนหลอก"

สำหรับ Facebook Safety Check เป็นระบบการแจ้งเตือนเหตุร้าย เช่น ภัยก่อการร้าย หรือ ภัยธรรมชาติ แดนเกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุนั้น สามารถยืนยันตัวว่าปลอดภัย ระบบนี้เคยใช้เตือนอย่างแพร่หลายเป็นเหตุก่อการร้ายในประเทศออสเตรเลีย

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2143502/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

ปปส.แจงกรณีส่งเสริมปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ

ปปส.แจงกรณีส่งเสริมปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ

ปปส.แจงกรณีส่งเสริมปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ

 

ป.ป.ส. แจงกรณี ครม. มีมติเห็นชอบ ส่งเสริมการปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ ระบุ 3 ปีแรก จะให้ภาครัฐเป็นผู้ขออนุญาตในการผลิตและจำหน่ายเท่านั้น

 

นาย ศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการส่งเสริมการปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ "กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp)" ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกกัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp) สำหรับการใช้ประโยชน์ในครัวเรือน (ใช้ในการทอเส้นใยผ้า) และในเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้กฎกระทรวงดังกล่าวอยู่ระหว่างการประกาศที่ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเมื่อประกาศฯ แล้วจะมีอยู่ผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 360 วันนับแต่วันประกาศเป็นต้นไป "โดยในระยะ 3 ปีแรกนับแต่วันประกาศ จะให้เพ่งตรงหน่วยงานของใช้รัฐเป็นผู้ขออนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง" และให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ประเมินผลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า ถึงที่เหมาะสมหรือไม่ที่จะอนุญาตให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมายื่นขออนุญาต


นาย ศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อว่า "สำนักงาน ป.ป.ส. จะนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ส. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว พร้อมทั้งจะกำหนดกลไกในการกำกับดูแลการปลูกกัญชงทั้งในระดับส่วนกลาง และในระดับพื้นที่ (จังหวัด/อำเภอ/ตำบล) ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้อนุญาตให้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ทดลองปลูกกัญชาเพื่อการวิจัยในด้านเมล็ดพันธุ์ การส่งเสริมการปลูกและการสร้างมูลค่าเพิ่ม งานพัฒนากระบวนการแปรรูปไปเส้นใย โดยทดลองปลูกใน 6 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก เพชรบูรณ์ และแม่ฮ่องสอน

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2144242/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

ตร.เอาผิดวัดพระธรรมกาย 175 คดี จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มอีก

ตร.เอาผิดวัดพระธรรมกาย 175 คดี จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มอีก

ตร.เอาผิดวัดพระธรรมกาย 175 คดี จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มอีก


การดำเนินคดีกับทางวัดพระธรรมกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุดได้มีการเอาผิดแล้วรวมทั้งสิ้น 175 คดี ขณะที่ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพอใจกับปฏิบัติการรื้อถอนสิ่งปลูก สร้างรอบวัดพระธรรมกาย และอาจมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเข้ากับผู้ที่ขัดขวางเจ้าหน้าที่

การดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย ล่าสุดทางคณะทำงานพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี คว้าดำเนินคดีแล้วรวมทั้งสิ้น 175 คดี แบ่งเป็นคดี บุกรุกสะพาน สายไฟ แผงเหล็ก สแลน และปิดถนน รวม 16 คดี คดีบุกรุกแผ้วดายป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 4 คดี พ.ร.บ.ขนส่งทางบก 20 คดี พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 127 คดี ความผิดเกี่ยวกับการกีดขวางการจราจร 3 คดี ขัดขวางเจ้าพนักงาน 2 คดี คดีใช้น้ำบาดาลและขุดบ่อบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 คดี หมิ่นประมาทเพราะว่าโฆษณา 1 คดี และคดีความผิดเกี่ยวกับการเอาไปเสียซึ่งทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดไว้ กรณีตู้คอนเทเนอร์ 1 คดี

ขณะที่ปฏิบัติงานเข้ารื้อถอนสิ่งก่อสร้างบริเวณรอบวัดพระธรรมกายเมื่อวาน ตรงนี้ ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ผลการปฎิบัติการงานครั้งนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากการดำเนินการครั้งนี้เป็นตามกฎหมายและเป็นไปด้วยดี


เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนคาดว่า อาจจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมและผู้กระทำกรณีผิด โดยตรงตัวกรณีการนำเสาหินมาวางกีดขวางการจราจร และผู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีก ครั้ง หากพบว่ากระทำความผิดจริงก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมยืนยันว่าหลังจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่

ส่วนจะมีการปฏิบัติการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมหลังจากนี้หรือไม่ คงต้องรอผลสรุปการหารือก่อน โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ เช่น สะพานข้ามคลองบริเวณประตู 4 ของวัด ก็จะต้องดำเนินการไปตามคำสั่งของศาล เช่นเดียวกับกรณีการตัดน้ำ ตัดไฟ และการรื้อถอนเสาไฟ เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองทั้งหมด

ประการไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้รองรับการประสานเหตุการณ์การขอหมายค้นออกจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แดนการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และการขอหมายค้นวัดพระธรรมกายในความรับผิดชอบ สิ่งของตำรวจครั้งต่อไป คงต้องรอคำสั่งจากถนนหนทาง พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเท่าตรงนั้น

ข่าววัดพระธรรมกาย" href="http://news.sanook.com/2143654/">http://news.sanook.com/2143654/

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวขาวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

ผู้หญิงทุก มนุชไม่ว่าใครก็ล้วนอยากมีผิวขาว อย่างไรก็ตามหากคุณเกิดมาพร้อมกับผิวสองสี ผิวแทนหรือผิวสีน้ำผึ้งตลอดกระเป๋าแห้งผิวหมองคล้ำอันเนื่องมาจากการตากแดดเป็นเวลา เนิ่นนาน ความหมองคล้ำจากแดดก็ย่อมบดบังความกระจ่างใสเครื่องใช้ผิวจนเหลือแต่เพียงความหมอง คล้ำดำกร้านได้เช่นเดียวกัน วันนี้เรามีสูตรความงามที่จะช่วยเปลี่ยนสีผิวของคุณอำนวยกลับมาขาวกระจ่างใสแบบธรรมชาติได้ค่ะ หากพร้อมแล้ว.. เรามาสู่ดูกันเลยว่ามีสูตรไหนทำอย่างไรค่อย

สูตรขัดผิวขาว

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวด้วยมะขามเปียก มะนาว ขมิ้น โยเกิร์ตและน้ำผึ้ง
ด้วย ส่วนผสมพลัดพรากมะขามเปียกและมะนาวแผ่นดินนำมาผสมผสานกัน ยิ่งเป็นการเพิ่มสองคุณค่าจากกรดผลไม้แดนจะช่วยเร่งความกระจ่างใสให้สีผิว เพราะสองผลไม้ดังกล่าวมีฤทธิ์สดกรดมันจักช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าสถานที่ตายแล้ว ให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน ในขณะที่โยเกิร์ต น้ำผึ้งจะช่วยคืนความเนียนนุ่มชุ่มชื้นให้ผิวและขมิ้นก็จะช่วยจัดการ แบคทีเรียบนผิวหนังแบ่งออกหมดไป อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเคลือบผิวทำให้สีผิวผุดผ่องเป็นยองใยมากขึ้น เด่นนั้น สูตรนี้แล้วก็มั่นใจได้ว่าจะช่วยเปลี่ยนผิวหมองคล้ำของคุณให้ค่อยๆ ขาวกระจ่างใสไล่ตามธรรมชาติได้เหมือนแน่นอน

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
 

วิธีใช้ พา ส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกัน อาจจะแยกเอามะขามเปียกไว้ต่างหากก็ได้นะคะ เพราะว่านำมะขามเปียกมาชุบกับส่วนผสมทั้งหมดแล้วขัดผิวแทนใยบวบนั่นเอง ขัดผิวให้ทั่วเรือนร่างโดยขัดวนยังมีชีวิตอยู่วงกลมไปมา จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ 15-20 นาทีค่ะ แล้วล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ที่สำคัญหลังจากขัดผิวเสร็จแล้วอย่าลืมรีบชโลมผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมจาก ไวท์เทนนิ่งทันที และทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ภายในบ้านก็ตามก็ต้องทาครีมกันแดดค่ะ เพราะว่าแสงจากหลอดไฟก็แผ่รังสีที่จะทำลายผิวให้หมองคล้ำรวดเร็วได้

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรดังกล่าวสาวๆ สามารถนำมาพอกหน้าหาได้เช่นเดียวกันนะคะ เสียแต่ว่าอาจจะเลือกคือมะนาวหรือมะขามเปียกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กรดจากผลไม้มีมากเกินเดินทางจนทำลายผิวถวายแสบระคายเคืองค่ะ และอาจจะลดขมิ้นให้น้อยลงด้วย ไม่เช่นนั้น อาจทำให้ผิวหน้าสาวๆ เหลืองอย่างที่ไม่ถูกจะเป็นหาได้

สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส
สูตรขัดผิวมะขามเปียกพื้นบ้านเปลี่ยนผิวคล้ำให้ขาวกระจ่างใส

สูตรขัดผิวจากมะขามเปียกและ วัตถุดิบอื่นๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติช่วยผลัดผิวและเผยเซลล์ผิวใหม่ที่กระจ่าง

ใส เปล่งปลั่ง ทำให้ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อสาวๆ ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ควบคู่กับการกินผักผลไม้ที่ให้วิตามินแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว นอนพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำกับหลับให้สนิทตลอดคืน มีหรือคะที่ผิวหมองคล้ำจักไม่โบกมือลาหายไป

สำหรับสาวที่กอบด้วยผิวแทน ผิวสองสีไม่ก็ผิวสีน้ำผึ้ง คุณก็จักพบกับผลลัพธ์ข้าวของสีผิวที่จะค่อยๆ ขาวกระจ่างใสได้เช่นเดียวกัน ไม่เชื่อ.. คงต้องลองทำตามกันแล้วค่ะ แล้วคุณจะทึ่งไปกับคุณสมบัติของสูตรภูมิปัญญาพื้นบ้านไทยเราสุดๆ เลยล่ะ

ลายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://women.sanook.com/blog/22855/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้หญิงอยากรู้

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำการตั้งกฎเกณฑ์นี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

การขัดผิวเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก และยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก แต่การขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีเท่ากันนั้นที่ทำแล้วหาได้ผล ซึ่งวิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกต้องเหมาะสมจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะหลายครั้งสาวๆ ทำแล้วกลับมีผิวหน้าหมองคล้ำกลับมาแทนที่ วันนี้เราเลยจะมาสู่แนะนำกำหนดการในการขัดผิวอย่างถูกวิธีให้ได้ทราบดังนี้ค่ะ

ตอนยังไม่ตายสิวควรขัดหน้าดีไหม?

ในช่วงในเป็นสิว สาวๆ ไม่ควรขัดผิวหน้าอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นการเคลื่อนที่รบกวนสิวให้ยิ่งอักเสบลุกลามหนักรุ่งได้ หรือหากต้องงานขัดผิวหน้าจริงๆ แนะนำสละพยายามขัดในส่วนผิวทั่วไปปกติ หลีกเลี่ยงงานลูบไล้จุดที่มีสิวขึ้นเด็ดขาด พร้อมทั้งควรล้างหน้าให้สะอาดปราศจากฟองตกค้าง จะได้ไม่เป็นอาหารสิวต่อไป

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

วางแผนวันขัดผิวไว้บ้างก็ดี

การขัดผิวหน้า โปร่งใสครั้งสาวๆ ก็จำต้องรู้จักวางแผนช่วงเวลาในการขัดผิวเหมือนกันนะคะ จริงอยู่ที่เราควรขัดผิวในตอนกลางคืนเท่านั้นจึงจะเหมาะสม แต่อย่างไรก็ดี สำหรับสาวๆ ที่ขัดผิวหน้าแต่ก่อนนอน แต่หากตอนเช้ามีทริปหรือมีเหตุจำเป็นจะต้องไปทำกิจกรรมกลางแดด หรือไปทะเล เรียกง่ายๆ ว่าหากผิวหน้าจะต้องเผชิญกับแสงแดดมีชีวิตเวลานาน ในช่วงนี้ควรเลื่อนการขัดผิวหน้าไปก่อนเป็นดีที่สุด เนื่องจากช่วงที่เราขัดผิวใหม่ๆ ผิวหน้าจะยิ่งบอบบางและไวต่อแดดอย่างมาก เสี่ยงระวางจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและมีปัญหาระคายเคืองกลับมาจัดหามานั่นเอง

ขัดผิวหน้าอย่างเบามือทุกครั้ง

ผิวหน้าของคนเรามีความบอบบางมากกว่าผิวส่วนอื่นๆ ดังนั้น ขณะขัดผิว สาวๆ จึงควรลูบไล้ผิวโดยขัดแบบเป็นวงกลมอย่างเบามือที่สุด โดยทำเช่นนี้จนทั่วทั้งใบหน้า เน้นหน้าผาก จมูก แก้มสองข้างและคางเป็นพิเศษ และหากส่วนใดที่มีสิวเสี้ยนก็อาจจะพยายามขัดผิวบริเวณนั้นย้ำบ่อยๆ ซึ่งเวลาในการขัดก็ควรอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ

วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ
วิธีขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ทำแบบนี้สิ หน้าใสไร้สิว ไร้ความหมองคล้ำดั่งใจ

ควรทาครีมกันแดดหลังขัดผิวอยู่เสมอ

แม้จะขัดผิวในตอนกลางคืนก็ตาม แต่ในทุกๆ เช้าหลังจากทาครีมบำรุงผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ก็ต้องทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV อยู่เสมอ โดยควรเลือกชนิดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวหน้าบอบบางและไวต่อแดดกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ไม่เช่นนั้น แสงแดดจะทำลายผิวหน้าให้หมองคล้ำได้ และหากจะให้ดี พยายามเดินหลบเลี่ยงแสงแดดไว้ด้วยจะดีที่สุด หรืออาจจะกางร่มหรือสวมหมวกปีกกว้างกันแดดอีกทีก็ได้

บำรุงผิวทุกครั้งหลังขัด

หลังผละขัดผิวหน้าเสร็จแล้ว สาวๆ ควรทาครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวหน้ายิ่งสุขภาพดี เนียนนุ่มสดใสแท้ขึ้น

รู้กันแบบนี้แล้ว จากนี้ไปก็หันมาขัดผิวหน้าอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำจากเรากันนะคะ เพื่อผิวหน้าจะได้ขาวกระจ่างใสไร้สิว ไม่มีริ้วรอยและความหมองคล้ำมาเยือนง่ายอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมุลจาก http://women.sanook.com/blog/80203

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สิวมีกี่แบบ

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

รวมจุดเสี่ยง เส้นทางเลี่ยงรถติดช่วงปีใหม่ 2560

102

เส้นทางเลี่ยงรถติดปีใหม่ 2560

      แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคเหนือ

    

เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯจาก รังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 หรือ ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณฯ) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณฯ – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครปฐม (ทางหลวงหมายเลข 346 นครชัยศรี – กำแพงแสน) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 321 กำแพงแสน – ด่านช้าง) – จ.อุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข 333 ด่านช้าง – บ้านไร่ – อ.เมืองอุทัยธานี) ละนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางย่าน 4 จากกรุงเทพฯไป รังสิต– อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) ลูกจากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก

 

 

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

     เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – บ.บัวชุม,บ.หนองสอง (ทางหลวงหมายเลข 2234,2247) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2422) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี –  อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314) – อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เพื่อเป็นการระบายปริมาณรถหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นเส้นทางไปภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถใช้เส้นทางเหล่านี้ได้

     1.จากถนนพหลโยธินประมาณ กม.40 500 เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข 3214 ตรงไปบรรจบ    ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 347 จนไปถึงต่างระดับบางปะหันได้   ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถเลี่ยงการจราจรที่ต่างระดับบางปะอินและที่จ.อยุธยาได้

     2. จากทางหลวงพิเศษหมายเลข9 (ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก) สามารถเลี่ยงปริมาณจราจรหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอินได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1  จากนั้นตรงไปประมาณ กม.65 ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 309 ตรงไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 

 

100

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคใต้

       เส้นทางที่ 9 ใช้ถนนธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนน เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 10 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม, ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 11 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย - นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

       ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กรมทางหลวง

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://auto.sanook.com/56509/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

แชร์ป่วน! ระบบเตือนภัยเฟซบุ๊กดังลั่น แจ้งระเบิดในกรุงเทพฯ

ปั่นป่วนไปทั่วเมือง Facebook Safety Check ระบบแจ้งเตือนภัยดัง แจ้งกรุงเทพฯ มีระเบิด ผู้คนแห่กดแชร์ตามๆ กัน ยืนยันไม่มีเหตุใดเกิดขึ้น

(27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ไทม์ไลน์เฟซบุ๊กเต็มไปด้วยข้อความเตือนภัยเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกแชร์ไปทั่ว โดยพบว่ามาจากระบบ Facebook Safety Check ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนภัยแบบเรียลไทม์ แต่จากการตรวจสอบไม่พบเหตุระเบิดใดเกิดขึ้น

ขณะที่ผู้ปุถุชนในโลกโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์พร้อมกับช่วยตรวจสอบกรณีที่เกิด ขึ้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาริจากสาเหตุ Facebook Safety Check ถูกรบกวนหรือขัดข้อง ทำให้เกิดการแจ้งเตือนขึ้นมา ทั้งนี้ยังมีตั้งข้อสังเกตว่า เว็บไซต์ข่าว Bangkok Informer ได้นำข่าวเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อเดือนสิงหาม 2558 มาโพสต์แชร์ซ้ำอีกครั้งในวันนี้ สามารถจะทำให้เกิดความผิดพลาดในระบบข่าวออนไลน์


นอกจากนี้ ผู้คนในโลกออนไลน์บางคนต่างได้รับแจ้งเตือนภัยจากผู้ใช้คนอื่นๆ ในลักษณะส่งต่อกันเรื่อยๆ เพื่อใช้สำหรับเตือนภัยเหตุร้าย ขณะนี้บางส่วนก็ตั้งข้อสงสัยว่า การปล่อยข่าวลือแบบนี้จะเกี่ยวข้องกับการแฮ็กระบบ เนื่องด้วยสร้างสถานการณ์ใดๆ หรือไม่

ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความภายในเฟซบุ๊กว่า "อันนี้เฟซบุ้คมั่วนะครับ ไม่ได้มีเหตุระเบิดอะไร ไม่ต้องโดนหลอกให้กดรายงานองค์ว่าปลอดภัยกันนะครับ มันมั่วมาจากข่าวระเบิดราชประสงค์ปีก่อน มีเพจคลิ้กเบจเอามาโพสต์ซ้ำ เฟซบุ๊กเลยโดนหลอก"

สำหรับ Facebook Safety Check เป็นระบบการแจ้งเตือนเหตุร้าย เช่น ภัยก่อการร้าย หรือ ภัยธรรมชาติ ถิ่นที่เกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุนั้น สามารถยืนยันตัวว่าปลอดภัย ระบบนี้เคยใช้เตือนอย่างแพร่หลายเป็นเหตุก่อการร้ายในประเทศออสเตรเลีย

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2143502/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

รวมจุดเสี่ยง เส้นทางเลี่ยงรถติดช่วงปีใหม่ 2560

102

เส้นทางเลี่ยงรถติดปีใหม่ 2560

      แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคเหนือ

    

เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯดำเนิน รังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 หรือ ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณฯ) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณฯ – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครปฐม (ทางหลวงหมายเลข 346 นครชัยศรี – กำแพงแสน) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 321 กำแพงแสน – ด่านช้าง) – จ.อุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข 333 ด่านช้าง – บ้านไร่ – อ.เมืองอุทัยธานี) เคลื่อนนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางแหล่ง 4 จากกรุงเทพฯไป รังสิต– อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) พลัดนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก

 

 

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

     เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – บ.บัวชุม,บ.หนองสอง (ทางหลวงหมายเลข 2234,2247) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2422) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี –  อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314) – อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เพื่อเป็นการระบายปริมาณรถหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นเส้นทางไปภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถใช้เส้นทางเหล่านี้ได้

     1.จากถนนพหลโยธินประมาณ กม.40 500 เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข 3214 ตรงไปบรรจบ    ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 347 จนไปถึงต่างระดับบางปะหันได้   ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถเลี่ยงการจราจรที่ต่างระดับบางปะอินและที่จ.อยุธยาได้

     2. จากทางหลวงพิเศษหมายเลข9 (ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก) สามารถเลี่ยงปริมาณจราจรหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอินได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1  จากนั้นตรงไปประมาณ กม.65 ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 309 ตรงไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 

 

100

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคใต้

       เส้นทางที่ 9 ใช้ถนนธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนน เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 10 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม, ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 11 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย - นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

       ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กรมทางหลวง

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://auto.sanook.com/56509/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

ปีกไก่ย่างสูตรเด็ด...อร่อยล้ำภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องหมักข้ามคืนข้ามวันให้เสียเวลาค่ะ

...เมนูนี้ ชิ้งน้อยภูมิใจเสนอมากค่ะ สมัยก่อนเวลาจะกินไก่ย่างที ต้องรีบเข้าครัวไปหมักเย็นนี้ พรุ่งนี้ค่อยกิน เพราะอยากให้ซอสต่างๆซึ้มซับเข้าไปในเนื้อไก่และได้รสชาติที่เข้มข้น แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องคอยนานแบบนั้นอีกแล้วค่ะ เพียง30นาที กับเครื่องปรุงไม่กี่อย่าง ก็สามารถเนรมิตรไก่ย่างหน้าตาดี ทำง่าย อร่อยเว่อร์แย้วววววว ส่วนเทคนิคนั้นจะเป็นอะไร ตามมาชมกันได้เลยจ้า...

 

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

1 ปีกไก่

2 รากผักชี กระเทียม พริกไทยดำโขลกละเอียด

3 น้ำมันหอย

4 ซีอิ้วขาว

5 น้ำปลา

6 ซอสปรุงรส

7 น้ำตาลทราย

วิธีทำ

1 ตั้งกระทะเจียวรากผักชี กระเทียม พริกไทยดำโขลกละเอียดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำปลา ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ชิมแล้วปรับจนได้รสชาติที่ชอบ

 

2 ใส่ปีกไก่ตามลงไปข้างในกระทะ คลุกเคล้าซอสต่างๆให้เคลือบไก่โดยทั่ว ผัดจากเรื่อยๆจนไก่สุกระดับหนึ่ง เทคนิคนี้จะช่วยทุ่นเวลาอบหรือย่างไก่ในขั้นตอนถัดไปด้วยค่ะ แถมทำให้ซอสสุดเข้มข้นเคลือบไปบนชิ้นไก่ทุกชิ้น ชนิดไม่ต้องคอยเป็นเวลายาวนานด้วย

 

3 สุดท้ายนำไปอบด้วยไฟ 180 ประมาณ 15นาที และ 200 อีกซัก 5 นาที รวมหมดนี้คอยดูด้วยนะคะ ระวังจะไหม้ค่ะ หรือถ้าบ้านใครไม่มีเตาอบ สามารถนำไปย่างหรือทอดก็ได้เช้กันค่ะ

 

เป็นไงคะ เห็นมะ บอกแล้วว่าทำง่ายมั่กๆเลย มาชมผลงานอีกครั้งนะคะ

 

"ก่อนจะลาจากกันไปในวันนี้ ชิ้งขอฝากหนังสือ cookbook เล่มแรกในชีวิตของชิ้งไว้ในอ้อมใจเพื่อนๆด้วยนะคะ ในเล่มมีถึง 50 เมนู ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นเลยจ้า หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านนายอินทร์ Kinokuniya ซีเอ็ด B2S และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หน้าปกเป็นข้าวผัดปลาทู ด้านหลังปกจะมีชิ้งยืนยิ้มให้อยู่จร้า ^ ^"

ข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/blog/23799/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

ครบรอบ 12 ปี สึนามิ 2547 ฝันร้ายไม่ลืมของคนไทย

ครบรอบ 12 ปี สึนามิ 2547 ฝันร้ายไม่ลืมของคนไทย

ครบรอบ 12 ปี สึนามิ 2547 ฝันร้ายไม่ลืมของคนไทย

ผ่านมาแล้วถึง 12 ปี สำหรับเหตุการณ์ สึนามิ ปี พ.ศ.2547 เชื่อว่าคนทั่วโลกโดยเฉพาะคนไทย 6 จังหวัดภาคใต้ ริมฝั่งทะเลอันดามัน ยังคงไม่ลืมเลือนฝันร้ายที่คร่าชีวิตคนไทย และชาวต่างชาติไปไม่น้อยกว่าสองแสนชีวิต

ย้อนไปเมื่อเวลา 07.58 น. ตามเวลาในประเทศไทย ของวันที่ 26 ธ.ค. 2547 เกิดเหตุแผ่นดินไหวใน มหาสมุทรอินเดีย โดยเป็นแผ่นดินไหวใต้ทะเล ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรอินเดีย ใกล้ด้านตะวันตกของตอนเหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ทำให้เกิดความเสียหายบนเกาะสุมาตรา และยังรับรู้ได้ในภาคใต้ของประเทศไทย

แผ่นดินไหวเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกใต้มหาสมุทรอินเดีย กระตุ้นให้เกิดคลื่นสึนามิสูงราว 30 เมตร เข้ามาท่วมทำลายบ้านเรือน ตามแนวชายฝั่งเพราะว่ารอบมหาสมุทรอินเดีย ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ใน 14 ประเทศ มากกว่า 230,000 คน นับเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดแห่งประวัติศาสตร์ ประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดได้แก่ อินโดนีเซีย ,ศรีลังกา, อินเดีย และ ไทย


เหตุการณ์สึนามิ เฉพาะในไทย ที่ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ทำส่งมอบมีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,400 คน บาดเจ็บกว่า 8,000 คน และสูญหายอีกมากมาย บ้านเรือนประชาชน รีสอร์ต และโรงแรม ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ถนน มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังทำให้คนไทยสูญเสีย คุณพุ่ม เจนเซ่น พระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ขณะที่คุณพุ่มเล่นเจ็ตสกีอยู่ที่ชายหาดโรงแรมมันดะเลย์รีสอร์ต บ้านเขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา สิริอายุ 21 ปี

แม้จะผ่านไปกว่า 12 ปีแล้ว แต่ถ้าว่าจนถึงขณะนี้ สำนักงานพิสูจน์เสาหลักฐานตำรวจยังคงทำงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เพื่อส่งศพผู้เสียชีวิต กว่า 400 ร่าง ที่ถูกฝังอยู่ที่สุสานผู้ประสบภัยสึนามิ ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สถานที่เก็บศพผู้เสียชีวิตจาก 39 ประเทศ ย้อนขนคืนสู่ครอบครัว

ข้อมูลจาก http://news.sanook.com/2142362/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าว

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

สิว.. เป็นปัญหาผิวแห่งเกิดขึ้นได้ในทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ฤดูกาลใดก็ตาม แต่ในที่นี้เราจะมาพูดถึงการเกิดสิวในช่วงหน้าฝนกันค่ะ สภาพอากาศที่ชื้นๆ แบบนี้ มีหรือคะที่ผิวหน้ากระผมจะไม่มอซอและเกิดสิวง่าย เรามาดูกันดีกว่าว่าที่มาของใช้การเกิดสิวหน้าฝนหมายความว่าอย่างไร พร้อมกับจะดูแลรับมืออย่างไรดี

สาเหตุของการเกิดสิวในหน้าฝน

เชื่อมั้ยเหมาสภาพอากาศก็มีส่วนบริหารให้เกิดสิวได้เช่นเดียวกันนะคะสาวๆ เพราะสิวมักเกิดขึ้นช่วงหน้าร้อน และหน้าฝนมากกว่าในหน้าหนาว ข้างนอกจากฮอร์โมน ความเครียด พันธุกรรม งานใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากน้ำมันแล้ว การรับประทานยาบางชนิดยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ด้วย นอกจากนี้ สภาพอากาศและแสงแดดก็นับเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้ค่อนข้างมาก เพราะรังสี UV จากแดดจะทำให้ต่อมขนมีการอักเสบ ด้วยกันยังสามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันเกิดการผลิตน้ำมันออกมาได้มากขึ้น จึงก่อให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวได้ในที่สุด ยิ่งกับหน้าฝนด้วยแล้ว ความชื้นจะมีอยู่ในอากาศค่อนข้างสูงและยิ่งส่งผลทำให้เป็นสิวง่ายมาก โดยเท่านั้นเชื้อแบคทีเรีย P.acnes จะเกิดการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในที่ที่มีเหงื่อ เชื้อโรค และมีฝุ่นละอองสะสมเข้าไปหมักหมมมากยิ่งขึ้น หากไม่ดูแลทำความสะอาดผิวให้ดี สิวก็จะผุดขึ้นมาในพื้นที่สุด

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?
ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?
 

วิธีดูแลผิวเมื่อเป็นสิวในช่วงหน้าฝน

เพราะหน้าฝนทั้งเป็นช่วงที่สภาพอากาศมีอยู่ความชื้น บวกกับสิ่งสกปรกที่จับตัวกันบนผิวจนเกิดการหมักหมม ทำให้เชื้อแบคทีเรียสิวเจริญเติบโตจนเป็นสิวได้ง่าย ดังนั้น ผมจึงควรใส่ใจรับมือดูแลปัญหาสิวในช่วงหน้าฝนให้ดี โดยอันดับแรกควรล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำเช้า-เย็น ด้วยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนโยน เอี้ยวเลี่ยงการขัดหน้าแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดความระคายเคือง และหากมีสิวขึ้นหน้าอยู่ ก็ไม่ควรกด ถอดหรือบีบสิวอย่างเด็ดขาด ก็เพราะว่าจะยิ่งทำให้สิวแย่ลงมากขึ้นได้ อีกทั้งยังมีรอยแดง และรอยดำรวมถึงปัญหาแผลเป็นจากสิวซึ่งชดใช้เวลาที่การรักษาสิวให้หายค่อนข้างนาน

ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?
ปัญหาสิวช่วงหน้าฝน รับมือยังไงดีนะ?

การใช้โทนเนอร์เช็ดหน้า ก็ถูกต้องเลือกประเภทที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เนื่องด้วยป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ในส่วนข้าวของครีมบำรุงผิวควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ กับเป็นครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าโดยเฉพาะ แต่ถ้าว่าควรหลีกเลี่ยงการทาในจุดที่มีสิว

พร้อมกับที่สำคัญ อย่าลืมทาครีมกันแดดแห่งตอนกลางวันเพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของใช้การเกิดสิว หากทำได้ตามนี้ก็จะทำให้สิวหายได้รับเร็วขึ้นค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://women.sanook.com/blog/77039/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รวมเคล็ดลับเด็ดเรื่องสิว

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

หนาวนี้ต้อง ในสายหมอก บูติค รีสอร์ท (เขาค้อ) ของนางร้ายรุ่นใหญ่ ต้อม-ณหทัย พิจิตรา นางร้ายในตำนาน

เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำ ที่ทางทีมงาน Sanook! Travel ขอหยิบมาแนะนำในช่วงหน้าหนาปีนี้ครับ ในสายหมอกเป็นรีสอร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของวิว เช้าคุณจักตื่นมาพบกัหมอกที่รับรองว่าหากได้มาเยือน ที่นี่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่อนนครับ เกี่ยวจากท้องที่ตั้งอยู่ในหุบเขาจึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

gedc0114 

รีสอร์ทนี้เปล่าเหมาะพร้อมกับผู้ที่อยู่กับธรรมชาติเปล่าเป็น กับต้องการหามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เพราะเราเป็นรีสอร์ท ในสไตล์การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีแอร์ พร้อมทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกสถานที่เกินจำเป็น นะค่ะ
เราทุกคนเกิดมาจากธรรมชาติ ถูกจะเคารพธรรมชาติ และอยู่กับธรรมชาติดุจรักธรรมชาติ  

4


ส่วนใครทีนึกภาพของคุณ ไม่ออกก็ลองเข้า Google ดูนะรับรองไม่มีใครไม่รู้จักเธอแน่นอน

ลายละเอียดเพิ่มเติม http://travel.sanook.com/1401669/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

รวมจุดเสี่ยง เส้นทางเลี่ยงรถติดช่วงปีใหม่ 2560

102

เส้นทางเลี่ยงรถติดปีใหม่ 2560

      แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคเหนือ

    

เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯจร รังสิต (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ทางหลวงหมายเลข 32 หรือ ถนนสายเอเชีย) – อ.มโนรมย์ (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณฯ) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340 สุพรรณฯ – ชัยนาท) – จ.ชัยนาท (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป จ.นครปฐม (ทางหลวงหมายเลข 346 นครชัยศรี – กำแพงแสน) – จ.สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 321 กำแพงแสน – ด่านช้าง) – จ.อุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข 333 ด่านช้าง – บ้านไร่ – อ.เมืองอุทัยธานี) เคลื่อนนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

เส้นทางเนื้อที่ 4 จากกรุงเทพฯไป รังสิต– อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ทางหลวงหมายเลข 11) พลัดนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก

 

 

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

     เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – บ.บัวชุม,บ.หนองสอง (ทางหลวงหมายเลข 2234,2247) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2422) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี –  อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) – อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

     เส้นทางที่ 5 จากกรุงเทพฯไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314) – อ.พนมสารคาม – อ.กบินทร์บุรี – อ.วังน้ำเขียว – อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา

 

     เพื่อเป็นการระบายปริมาณรถหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอิน ซึ่งเป็นเส้นทางไปภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถใช้เส้นทางเหล่านี้ได้

     1.จากถนนพหลโยธินประมาณ กม.40 500 เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข 3214 ตรงไปบรรจบ    ทางหลวงหมายเลข 347 จากนั้นสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 347 จนไปถึงต่างระดับบางปะหันได้   ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถเลี่ยงการจราจรที่ต่างระดับบางปะอินและที่จ.อยุธยาได้

     2. จากทางหลวงพิเศษหมายเลข9 (ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก) สามารถเลี่ยงปริมาณจราจรหนาแน่นบริเวณต่างระดับบางปะอินได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1  จากนั้นตรงไปประมาณ กม.65 ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 309 ตรงไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 

 

100

       แนะนำเส้นทางลัด ทางเลี่ยง กรุงเทพฯ - ภาคใต้

       เส้นทางที่ 9 ใช้ถนนธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนน เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 10 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม, ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ ภาคใต้

       เส้นทางที่ 11 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย - นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

       ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กรมทางหลวง

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://auto.sanook.com/56509/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

เพื่อนนักแสดงเศร้า… “แคร์รี่ ฟิชเชอร์” เจ้าหญิงเลอา Star Wars เสียชีวิตแล้ว

วันที่ 28 ธ.ค. 59 – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แคร์รี ฟิชเชอร์ นักแสดงหญิงปรมาภิไธยดัง ชาวอเมริกัน ผู้รับบท “เจ้าหญิงเลอา” ในภาพยนตร์มหากาพย์ไซไฟยอดนิยมอย่าง “สตาร์ วอร์ส” เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 60 ปี หลังจากประสบสภาพความเป็นอยู่หัวใจหยุดเต้น

ทั้งนี้ จากข่าวดังกล่าวได้สร้างความโศกเศร้าให้แก่บรรดานักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส รวมถึงแฟน ๆ อย่างมาก ซึ่ง มาร์ค ฮามิลล์ หนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส ผู้รับบท ลุค สกายวอล์คเกอร์ ได้ทวีตข้อคดีสั้น ๆ ว่า “ไม่มีคำใดจะเอ่ยออกมาได้”

ขณะที่ แฮริสัน ฟอร์ด อีกหนึ่งนักแสดงชื่อดังแถวรับบาท ฮาน โซโล กล่าวถึง แคร์รี ฟิชเชอร์ ว่า “เธอเป็นบุคคลที่พิเศษและใช้ชีวิตอย่างองอาจ” ส่วน จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับชื่อดังที่ให้กำเนิดภาพยนตร์ชุด สตาร์ วอร์ส เอื้อนว่า “แคร์รี ฟิชเชอร์ คือคนที่ฉลาด เป็นนักแสดงและนักเขียนที่มีพรสวรรค์ และทุกคนก็รักความมีชีวิตชีวาแห่งตัวเธอ”

โดยเมื่อวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ที่ผ่านมา อาการโรคหัวใจสรรพสิ่ง แคร์รี ฟิชเชอร์ กำเริบขณะตำแหน่งเธอกำลังเดินทางจากกรุงลอนดอนของอังกฤษไปยังนครลอสแองเจลิส ของสหรัฐฯ โดยเครื่องบิน ซึ่งเป็นกำลังเดินสายโปรโมตหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ ทำให้เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่อเครื่องลงจอด ก่อนที่ต่อมาแม่ของเธอจะกล่าวว่า อาการของเธอทรงตัวแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://news.sanook.com/2143538/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าววันนี้

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

รีวิวกากกาแฟขัดผิว ตัวช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ได้ผลจริง

ฮัลโหลสาวๆ วันนี้เกรดดี้จะมา รีวิวกากกาแฟขัดผิว ที่หลายคนอาจจะมองว่า กากกาแฟเนี่ยนะ จะมาขัดตัวได้หรอ! ที่ผ่านมาเราจะได้ยินบ่อยๆ ว่ากากกาแฟ สนับสนุนปลูกต้นไม้ ผสมดิน ผสมปุ๋ยเพื่อให้ต้นไม้งอกงาม แต่ถ้าใครได้ลองใช้สูตรนี้แล้วล่ะก็ จะต้องร้องว้าว กับผิวที่เนียน นุ่ม ขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ล้ำถ้าเป็นปราณีชอบกลิ่นกาแฟอยู่แล้วจะยิ่งฟินเลยค่ะ

แต่ก่อนที่เราจะมาดูสูตรเนรมิตผิวสวยกันนั้น เรามารู้กันก่อนดีกว่าว่า งานขัดผิวให้ประโยชน์อย่างไร

การขัดผิว จักช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื้น กระจ่างใสจำพวกเป็นธรรมชาติ แต่! งานขัดผิวไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ในพริบตา การออกแรงมากจะยิ่งทำให้ผิวอ่อนแอ เกิดข้อความแห้งกร้าน เป็นรอยแดง พร้อมทั้งเป็นสาเหตุให้สิ่งแปลกปลอมเข้าเคลื่อนในผิวของเราได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วควรขัดอย่างเบามือและไม่ควรขัดบ่อยจนเกินไป ควรขัดสัปดาห์ละไม่กิน 2 ครั้ง และไม่ควรทำติดกันคงจะจะเว้น 3-4 วัน หรือทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะเหมาะสมที่สุด

ส่วนการเลือกใช้คืน กากกาแฟ ควรจะต้องยังมีชีวิตอยู่กากกาแฟอย่างเดียว บางร้านเค้าจะใช้เครื่องบดเครื่องเดียวกัน ทำให้กากกาแฟกับกากชารวมกัน ควรหาร้านที่มีเครื่องแยกทั้งสองอย่าง แต่ถ้าเป็นร้านกาแฟชั้นนำไม่จงห่วงเค้าแยกอยู่แล้วจ้า

สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ งานเก็บรักษากากกาแฟ เนื่องดำเนินความชื้นที่อยู่ภายในกากกาแฟนั้นมีมาก ควรตากให้แห้งจนมั่นใจว่าแห้งสนิทแล้วใส่กระปุกไว้ค่ะ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ถึงเวลาที่ Sanook! Women จะพาคุณสาวๆ ไปดูขั้นตอนการ ขัดผิวด้วยกากกาแฟ กันจัดหามาเลย

 

สิ่งที่ต้องมี

1. กากกาแฟบด

2. นมสด 

3. น้ำผึ้ง

 

ขั้นตอนแรก นำกากกาแฟบดมาใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ใครที่ชอบทาพอกตัวหนา อาจจะต้องใส่เยอะสักนิดนะคะ

 

ขั้นตอนที่สอง นำนมสดมาผสมลงไป กากกาแฟที่แข็งจะนิ่มลง แต่อย่าใส่เยอะจนเกินไปนะคะ ไม่อย่างนั้นเนื้อจะดูเหลวไม่ติดผิว

 

 

ใส่น้ำผึ้งลงไปอีกนิด 

 

เมื่อคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันแล้วมาถึงขั้นตอนการขัดตัวกันเลยค่ะ

 

นำกากกาแฟที่ผสมไว้มาขัดวนรื่นๆ ให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ล้างออกตามปกติ วิธีนี้เกรดดี้ยังมิเคยลองกับผิวหน้า ถึงกระนั้นถ้าคุณเป็นสาวหน้าแห้งที่แตะต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นจัดได้เลย แต่อย่าลืมทดสอบที่ใต้ท้องแขนหรือผิวข้างแก้มเก่าว่าคุณแพ้กากกาแฟหรือไม่เปล่า

แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยหลังจากนั้นนะคะ สำหรับการทำสวยให้ผิวเนียนนุ่มอย่างปลอดภัย เปล่าต้องเสี่ยงอันตรายไปฉีดผิวหรือกินกลูต้าสละขาวเวอร์ ก็เพ่งพินิศดีได้แล้วค่ะ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://women.sanook.com/39259/

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เคล็ดลับความงาม

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

ได้เวลาขึ้นเหนือไปเจอลมหนาว กับ10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตรับหน้าหนาว

เมื่อเช้าได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยารายงานเหมา ปีนี้ภาคเหนือจะเจอลมหนาวกลางเดือนตุลาคมนี้แล้ว เพิ่มจะเย็นกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นมกราคม จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วทั้งภาคเฉลี่ยตั้งแต่ 5-19 องศาเซลเซียส เรียกว่าปีนี้ได้หนาวกันสะใจเลยทีเดียว สำหรับเพื่อนๆ แถวกำลังวางแผนขึ้นจากไปรับลมหนาวกัน สนุก! ท่องเที่ยว ได้คัดสรร 10 ที่เที่ยวสวยๆ ให้เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบอากาศหนาวแล้ว

1.ภูชี้ฟ้า เมื่อพูดถึงทะเลหมอก ภูชี้ฟ้ามักเป็นจุดหมายต้นๆ บริเวณหลายคนนึกถึง ภูชี้ฟ้าเป็นหน้าผายื่นออกไปเหนือทะเลหมอก ในตอนเช้าของฤดูฝนและฤดูหนาวหมอกจะปกคลุมหุบเขาด้านล่าง นักท่องเที่ยวต้องตื่นเช้าเนื่องด้วยเดินขึ้นภู รอชมพระอาทิตย์ขึ้น

ภูชี้ฟ้าภูชี้ฟ้า

2.ดอยอินทนนท์ มีชีวิตยอดดอยที่สูงที่สุดของแดนสยาม 2,565 เมตร มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดทีหลัง

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์

3.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ที่นี้ขึ้นชื่อทะเลหมอกที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมกางเต็นท์บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือดอยกิ่วลม ซึ่งเป็นได้ชมทะเลหมอกในตอนเช้า นอกพลัดทะเลหมอกที่หนาแน่นแล้วอีกต่างหากมองเห็นดอยเชียงดาวเป็นฉากหลังด้วย

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

4.ดอยแม่อูคอ อยู่ในที่เขตอำเภอขุนยวม หมายถึงแหล่งของดอกบัวตองที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย เวลาที่สวยงามที่สุดของการดูดอกบัวตองนั้น ควรดูในตอนเช้าเมื่อแสงแรกของวันสาดส่อง เพราะสีทองของดอกจะเปล่งประกายเป็นทองมากกว่าเวลาอื่นใด และใกล้ๆ กันก็ยังมีน้ำตกแม่สุรินทร์น้ำตกสูงใหญ่ส่งให้คุณเที่ยวชมอีกพร้อมด้วย

ดอยแม่อูคอ

ดอยแม่อูคอ

5.ปางอุ๋ง เป็นที่ที่สร้างความประทับใจมอบให้กับเราเป็นอย่างมาก มาริแล้วก็อยากจะมาอีกทุกๆ ปีเลยก็ว่าได้ งดงามทั้งธรรมชาติและบรรยากาศ สวยตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในฤดูหนาวอย่างนี้คุณจะได้เจอสายหมอก หยอกล้อกับสายน้ำท่ามกลางขุนเขาและป่าสน

ปางอุ๋ง

6.ดอยอ่างขาง ด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้ที่นี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ในที่ช่วงฤดูหนาว ตอนเช้าจะเกิดทะเลหมอกสีขาวสะอาดลอยระเรื่อยๆอยู่กับแปลงผักเมืองหนาว

ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง

7.ดอยเสมอดาว ในยามค่ำคืนนั่งนับดาว แผนกตอนเช้าตรู่ก็ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ใครอยากเห็นทะเลหมอกในที่มุมสูงแนะนำมอบให้ขึ้นไปชมบนผาหัวสิงห์ซึ่ง ตั้งอยู่บริเวณจุดกางเต็นท์

ดอยเสมอดาวดอยเสมอดาว

8.ม่อนกิ่วลม ดวงชมทะเลหมอกที่ทางสวยงามแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมย ความหนาแน่นของทะเลหมอกที่ปกคลุมเทือกเขาย้อมด้วยเสียงทองตอนเช้าของพระอาทิตย์ เป็นภาพที่น่าจะประทับใจ

ม่อนกิ่วลม

ม่อนกิ่วลม

9.ม่อนพูนสุดา เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูทะเลหมอก ด้วยมองเห็นทิวทิศน์ได้ระยะไกลและกว้าง หลายคนจึงยอมตื่นเช้าเพื่อดูทะลหมอกที่นี่

ม่อนพูนสุดาม่อนพูนสุดา

10.อุทยานแห่งชาติขุนสถาน แสงทองฉาบบนทะเลหมอกมีให้เห็นที่ขุนสถาน เช้าในฤดูหนาวแนะนำให้รีบจับครอบครองพื้นที่กลางเต็นท์ บริเวณที่ทำการซึ่งตั้งอยู่บนดอยแม่จอก สูงประมาณ 1,469 ม. จากระดับน้ำทะเล ทำเป็นมองเห็นทะเลหมอกแบบพานอรามา

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
 
คลิกชมภาพ
อ่านเพิ่มเติมที่ http://travel.sanook.com/1391118/
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวด่วน